เอเอฟพี –สมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯจากกบรรดามลรัฐรอบอ่าวเม็กซิโก ออกโรงผลักดันให้มีการขยายระยะเวลาการเรียกเก็บภาษีศุลกากรอัตราสูงพิเศษ ต่อกุ้งนำเข้าจากไทยและประเทศอื่นๆ ไปจนปี 2016 ความเคลื่อนไหวรอบใหม่ที่เกิดขึ้นในวันอังคารที่ผ่านมา (1) ระหว่างการไต่สวนสาธารณะเพื่อรวบรวมข้อมูลรอบด้านโดย คณะกรรมาธิการการค้าต่างประเทศ ซึ่งเป็นหน่วยงานอิสระของสหรัฐฯ
ในการนี้ คณะกรรมาธิการการค้าต่างประเทศ ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักที่มีอำนาจตัดสินในเรื่องการขยายระยะเวลาการเรียกเก็บภาษีศุลกากรอัตราอัตราสูงพิเศษ จะทำการลงมติในกลางเดือนมีนาคม ทั้งนี้ สหรัฐฯ เริ่มบังคับเรียกเก็บภาษีอัตราสูงดังกล่าวนับจากปี 2005 โดยถือเป็นมาตรการตอบโต้พวกชาติผู้ส่งผลิตภัณฑ์กุ้งเข้าสู่สหรัฐฯ ที่ถูกระบุว่า มีการกระทำอันเป็นการทุ่มตลาด หรือก็คือการขายสินค้าในราคาที่ต่ำอย่างไม่สมด้วยเหตุผลนั่นเอง
ที่ผ่านมา ไทยเป็นรายใหญ่ที่สุดที่ส่งกุ้งเข้าป้อนสหรัฐฯ ในปริมาณมากกว่า 180,000 ล้านกิโลกรัมในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2010 แม้ถูกเล่นงานด้วยมาตรการภาษีก็ตาม
“การยกเลิกมาตรการปกป้องย่อมจะสร้างความเสียหายอย่างถาวรแก่อุตสาหกรรมกุ้งของพวกเรา พร้อมกับกวาดล้างผู้คนซึ่งทำงานทุ่มเทกันอย่างสาหัสอยู่ในลุยเซียนา” กล่าวโดยวุฒิสมาชิกแมรี่ แลนดริว แห่งพรรคเดโมแครต ซึ่งเป็นวุฒิฯ จากมลรัฐลุยเซียนา
ส่วนวุฒิสมาชิกแธด โคฮ์ราน แห่งพรรครีพับลิกันของมลรัฐมิซซิสซิปปีเตือนว่าการยุติมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากร “จะทำลายอุตสาหกรรมกุ้งของสหรัฐฯ อย่างถาวร”
ย่านชายฝั่งรอบอ่าวเม็กซิโกซึ่งนับเป็นหนึ่งในกลุ่มมลรัฐที่ยากจนที่สุดของสหรัฐฯ ได้รับความเสียหายอย่างสาหัสเมื่อปีที่แล้ว เนื่องจากกรณีน้ำมันดิบของบริษัทบีพีเกิดอุบัติเหตุใหญ่ และรั่วไหลเข้าสู่ท้องทะเลย่านนี้ต่อเนื่องเป็นแรมเดือน และนับเป็นความเสียหายที่ร้ายแรงที่สุดหลังจากกรณีพายุเฮอร์ริเคนแคทริน่าถล่มพื้นที่ย่านนี้เมื่อราว 5 ปีที่ผ่านมา
ด้านการโต้แย้งจากบรรดาผู้แทนของเหล่าผู้ส่งกุ้งเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ นั้นมุ่งในประเด็นคัดค้านการเรียกเก็บภาษีศุลกากรว่า เป็นการไม่สนับสนุนระบอบการค้าเสรี นอกจากนั้น ยังปฏิเสธข้อกล่าวหาจากฝ่ายสหรัฐฯ มาโดยตลอดในเรื่องการทำลายอุตสาหกรรมอเมริกัน
ในการนี้ คณะกรรมาธิการการค้าต่างประเทศ ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักที่มีอำนาจตัดสินในเรื่องการขยายระยะเวลาการเรียกเก็บภาษีศุลกากรอัตราอัตราสูงพิเศษ จะทำการลงมติในกลางเดือนมีนาคม ทั้งนี้ สหรัฐฯ เริ่มบังคับเรียกเก็บภาษีอัตราสูงดังกล่าวนับจากปี 2005 โดยถือเป็นมาตรการตอบโต้พวกชาติผู้ส่งผลิตภัณฑ์กุ้งเข้าสู่สหรัฐฯ ที่ถูกระบุว่า มีการกระทำอันเป็นการทุ่มตลาด หรือก็คือการขายสินค้าในราคาที่ต่ำอย่างไม่สมด้วยเหตุผลนั่นเอง
ที่ผ่านมา ไทยเป็นรายใหญ่ที่สุดที่ส่งกุ้งเข้าป้อนสหรัฐฯ ในปริมาณมากกว่า 180,000 ล้านกิโลกรัมในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2010 แม้ถูกเล่นงานด้วยมาตรการภาษีก็ตาม
“การยกเลิกมาตรการปกป้องย่อมจะสร้างความเสียหายอย่างถาวรแก่อุตสาหกรรมกุ้งของพวกเรา พร้อมกับกวาดล้างผู้คนซึ่งทำงานทุ่มเทกันอย่างสาหัสอยู่ในลุยเซียนา” กล่าวโดยวุฒิสมาชิกแมรี่ แลนดริว แห่งพรรคเดโมแครต ซึ่งเป็นวุฒิฯ จากมลรัฐลุยเซียนา
ส่วนวุฒิสมาชิกแธด โคฮ์ราน แห่งพรรครีพับลิกันของมลรัฐมิซซิสซิปปีเตือนว่าการยุติมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากร “จะทำลายอุตสาหกรรมกุ้งของสหรัฐฯ อย่างถาวร”
ย่านชายฝั่งรอบอ่าวเม็กซิโกซึ่งนับเป็นหนึ่งในกลุ่มมลรัฐที่ยากจนที่สุดของสหรัฐฯ ได้รับความเสียหายอย่างสาหัสเมื่อปีที่แล้ว เนื่องจากกรณีน้ำมันดิบของบริษัทบีพีเกิดอุบัติเหตุใหญ่ และรั่วไหลเข้าสู่ท้องทะเลย่านนี้ต่อเนื่องเป็นแรมเดือน และนับเป็นความเสียหายที่ร้ายแรงที่สุดหลังจากกรณีพายุเฮอร์ริเคนแคทริน่าถล่มพื้นที่ย่านนี้เมื่อราว 5 ปีที่ผ่านมา
ด้านการโต้แย้งจากบรรดาผู้แทนของเหล่าผู้ส่งกุ้งเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ นั้นมุ่งในประเด็นคัดค้านการเรียกเก็บภาษีศุลกากรว่า เป็นการไม่สนับสนุนระบอบการค้าเสรี นอกจากนั้น ยังปฏิเสธข้อกล่าวหาจากฝ่ายสหรัฐฯ มาโดยตลอดในเรื่องการทำลายอุตสาหกรรมอเมริกัน
