เอเอฟพี - พายุไซโคลนยาซี ซึ่งมีขนาดและความรุนแรงมากที่สุดในรอบ 100 ปีของประวัติศาสตร์ออสเตรเลีย พัดเข้าถล่มเมืองต่างๆในรัฐควีนส์แลนด์วันนี้ (3) ขณะที่เจ้าหน้าที่ต่างแสดงความโล่งใจที่ไม่มีผู้เสียชีวิต
ประชาชนต่างออกมาสำรวจความเสียหายของอาคารบ้านเรือน หลังจากที่ไซโคลนยาซีซึ่งมีความเร็วลมสูงถึง 290 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พัดถล่มเมืองในช่วงเที่ยงคืนที่ผ่านมา
แอนนา บลาย ผู้ว่าการรัฐควีนส์แลนด์ เตือนว่า ถนนต่างๆ ร้อยละ 90 ในเมืองทัลลี ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของเมืองแคนส์ ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากพายุ ส่วนชุมชนเคิร์ดเวลล์ซึ่งอยู่ใกล้ชายฝั่งทะเลก็ “ถูกทำลายยับเยิน”
“ขณะนี้มีประชาชนที่ต้องสูญเสียบ้านเรือน, ไร่นา, พืชผลทางการเกษตร ตลอดจนความเป็นอยู่เดิมๆ ของพวกเขา ซึ่งดิฉันเชื่อว่าพวกเขาคงรู้สึกสิ้นหวัง” บลายกล่าว
เมืองแคนส์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวสำหรับผู้ที่จะมาสัมผัสความงามของแนวปะการัง “เกรต แบริเออร์ รีฟ” ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก โดยมีเพียงอาคารบางส่วนที่เสียหายและต้นไม้ใหญ่หักโค่น แต่บ้านเรือนในเมืองที่อยู่ห่างไปทางตอนใต้ถูกแรงพายุพัดจนหลังคาปลิว ทำให้ประชาชนราว 10,500 คนต้องอาศัยอยู่ในศูนย์ผู้ประสบภัยชั่วคราว
บลายระบุว่า ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิต ซึ่งทำให้ทุกคนรู้สึกโล่งอก หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีการพยากรณ์ผลกระทบที่ค่อนข้างรุนแรงเป็นวงกว้าง อย่างไรก็ตาม ยังต้องรอดูความเสียหายของเมืองที่ถูกพายุพัดถล่มอย่างหนัก ซึ่งขณะนี้การสื่อสารและการเดินทางเป็นไปโดยยากลำบาก
ยาซี ซึ่งเป็นพายุไซโคลนระดับ 5 และมีความรุนแรงพอๆ กับเฮอริเคนแคทรีนาที่ถล่มเมืองนิวออร์ลีนส์ของสหรัฐฯ ทำให้มีฝนตกหนักในรัฐควีนส์แลนด์ จนหลายเมืองต้องจมอยู่ใต้น้ำ
ทางการยังเตือนให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้าน เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายจากปรากฏการณ์คลื่นพายุซัดชายฝั่ง (storm surge) และแม้ไซโคลนยาซีจะอ่อนกำลังเป็นพายุระดับ 2 แล้ว แต่ก็อาจสร้างความเสียหายให้กับเมืองต่างๆ ที่พัดผ่าน