เอเอฟพี - อุทกภัยครั้งใหญ่ในออสเตรเลียยังคงลุกลามต่อไป เมื่อระดับน้ำท่วมสูงพังเขื่อนกั้นน้ำในพื้นที่ประสบภัย ทำให้น้ำไหลบ่าสร้างความเสียหายให้แก่ที่อยู่อาศัย และทรัพย์สินของประชาชนทางตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มขึ้น ขณะที่ชาวบ้านเร่งนำกระสอบทรายมาวางไว้ป้องกันน้ำท่วมบ้านตัวเอง
เควิน มองค์ โฆษกหน่วยฉุกเฉินเผยว่า แม่น้ำหลายสายในรัฐวิกตอเรียเอ่อล้นท่วมกินพื้นที่เป็นระยะทางยาวประมาณ 90 กิโลเมตร และกว้างถึง 40 กิโลเมตร ซึ่งเป็นอุทกภัยครั้งใหญ่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และถือเป็นเรื่องน่าประหลาดใจ
ขณะที่น้ำไหล่บ่าตรงไปยังแม่น้ำเมอร์เรย์ ทางการก็ได้แจ้งเตือนให้ประชาชนในชุมชนเพนทัล ไอส์แลนด์ และเมอร์ราบิท เวสต์ ซึ่งแต่ละแห่งมีชาวบ้านอยู่ราว 400 คนอพยพในคืนวันอาทิตย์ (23) และเช้าวันนี้ (24)
หน่วยฉุกเฉินประกาศว่า เขื่อนกั้นน้ำรอบเมอร์ราบิท เวสต์พังทลายลง น้ำจึงได้ล้นเข้าพื้นที่ โดยคาดว่าบริเวณดังกล่าวจะถูกน้ำท่วม และส่งผลกระทบต่อบ้านเรือนประชาชนภายในเวลา 12 ชั่วโมง
อุทกภัยครั้งใหญ่ในรัฐวิกตอเรีย อันมีสาเหตุมาจากฝนตกหนัก ซึ่งได้รับอิทธิพลจากปรากฎการณ์ลานีนา เกิดขึ้นตั้งแต่กลางเดือนมกราคม หลังจากน้ำท่วมหนักทางตอนเหนือยืดเยื้อมานานหลายสัปดาห์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 30 ราย ทำให้อุตสาหกรรมเหมืองแร่ และเกษตรกรรมในรัฐควีนส์แลนด์เสียหายรุนแรง
ขณะที่รัฐควีนส์แลนด์เริ่มฟื้นตัวจากวิกฤตน้ำท่วมครั้งร้ายแรงแล้ว แต่รัฐวิกตอเรียยังกำลังต้องรับมือจัดการกับอุทกภัยครั้งใหญ่เป็นประวัติการณ์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อบ้านเรือนมากกว่า 1,700 หลังคาทางตะวันตกเฉียง
ด้านเจ้าหน้าที่หน่วยฉุกเฉินได้เตรียมการรับมือกับน้ำท่วมตามแม่น้ำเมอร์เรย์ ซึ่งเป็นเส้นทางการดำรงชีวิตสำคัญของภาคตะวันออกเฉียงใต้ ที่ประสบกับความแห้งแล้งเรื้อรัง จนกระทั่งฝนตกหนักทำสถิติเมื่อกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา
ส่วนประชาชนที่ถูกตัดขาดเนื่องจากน้ำท่วมมาหลายวันก็เร่งนำกระสอบทรายมากั้นตามริมแม่น้ำ แต่เจ้าหน้าที่คาดว่ามาถึงขั้นนี้คงต้องกั้นเขื่อนรอบเมือง