เอเจนซี/เอเอฟพี - น้ำท่วมใหญ่รุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี ทะลักเข้าสู่ย่านใจกลางนครบริสเบน เมืองหลวงของรัฐควีนส์แลนด์และก็เป็นเมืองใหญ่อันดับสามของออสเตรเลียเมื่อวันพุธ(12) ทำให้ผู้คนนับหมื่นต้องหลบหนีออกจากที่อยู่อาศัย และจุดชนวนให้มีการกว้านซื้ออาหารอย่างตื่นตระหนก ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามค้นหาผู้สูญหายไปในกระแสน้ำอีก 43 คน ด้านนักเศรษฐศาสตร์เพิ่มประมาณการความเสียหายที่เกิดขึ้นไปอีกเท่าตัว เป็นร่วมๆ 13,000 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (396,500 ล้านบาท)
อุทกภัยครั้งนี้คร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 16 คนแล้ว นับตั้งแต่เริ่มท่วมท้นควีนส์แลนด์ที่เป็นรัฐอันอุดมด้วยถ่านหินและการเกษตรทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของแดนจิงโจ้ในเดือนที่แล้ว และทำลายโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เสียหายย่อยยับ อีกทั้งทำให้อุตสาหกรรมถ่านหินอยู่ในภาวะอัมพาต ส่งผลร้ายต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ และทำให้สกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 สัปดาห์
บริสเบนซึ่งเป็นนครริมแม่น้ำที่มีประชากรราว 2 ล้านคน คาดหมายกันว่าจะเผชิญกับระดับน้ำท่วมสูงที่สุด ก่อนดวงอาทิตย์ขึ้นในวันพฤหัสบดี(13) แต่น้ำยังจะท่วมขังต่อไปอีกหลายวัน
“เมืองบริสเบนจะเข้านอนในคืนนี้ และตื่นขึ้นมาเพื่อเผชิญกับฉากทิวทัศน์ซึ่งคนจำนวนมากจะไม่ได้ประสบพบเห็นอีกเลยในตลอดชีวิตของพวกเขา” แอนนา บลิก นายกรัฐมนตรีหญิงของรัฐควีนส์แลนด์กล่าวเตือน พร้อมกับทำนายว่าในตอนที่น้ำจากแม่น้ำบริสเบนเอ่อท้นขึ้นมาสูงสุดนั้น บ้านเรือนที่อยู่อาศัยซึ่งจะถูกท่วมน่าจะมีร่วมๆ 20,000 หลัง
เมื่อวานนี้ ชาวเมืองบริสเบนจำนวนมากพากันผลักรถเข็นช็อปปิ้งที่บรรทุกอาหารเอาไว้เต็ม ไปตามถนนที่เจิ่งนองด้วยน้ำ ขณะที่คนอื่นๆ ลุยน้ำลึกถึงไหล่เพื่อเก็บกู้สมบัติข้าวของต่างๆ เรือเล็กและเรือท้องแบนจำนวนมากถูกซัดหลุดออกจากท่าจอดเรือตามชายฝั่งแม่น้ำบริสเบน และปะทะเข้ากับสะพานในเวลาที่กระแสน้ำขุ่นสีน้ำตาลมีกำลังแรง
ตามสี่แยกที่ถูกน้ำท่วม หลายๆ คนพยายามใช้กระดานเซิร์ฟบอร์ดฝ่าข้ามสายน้ำ โดยที่วางสมบัติข้าวของของพวกเขาเอาไว้ให้สมดุลบนกระดาน ขณะที่เรือหลายๆ ลำวิ่งขึ้นล่องช่วยเหลืออพยพผู้คนไปยังพื้นดินที่ยังแห้งอยู่
ทั้งนี้ประมาณกันว่ามีชาวเมืองราว 4,000 คนย้ายเข้าไปอยู่ตามศูนย์อพยพ
ตามเมืองเล็กๆ ทางด้านตะวันตกของบริสเบน ซึ่งเผชิญกับน้ำท่วมใหญ่ที่ทะลักขึ้นมาอย่างฉับพลันรุนแรงประดุจดังคลื่นสึนามิเมื่อต้นสัปดาห์นี้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยฉวยประโยชน์จากสภาพอากาศที่ดีขึ้นมาบ้างเมื่อวานนี้ ในการออกค้นหาผู้ที่ยังสูญหายไปจำนวนรวม 43 คน
“บ้านบางหลังแตกทะลายด้วยกำลังแรงของน้ำ ผู้คนถูกพัดกวาดหายไป คงจะต้องใช้เวลาหลายๆ วันกว่าที่จะเสร็จสิ้นการค้นหาและช่วยเหลือนี้ได้” เอียน สจวร์ต รองผู้บัญชาการตำรวจควีนส์แลนด์กล่าว
สำหรับความเสียหายโดยรวมจากอุทกภัยร้ายแรงคราวนี้ บรรดานักเศรษฐศาสตร์ต่างพากันปรับเพิ่มประมาณการเดิมของพวกตน โดยที่ วอร์วิก แมคคิบบิน นักวิชาการที่เป็นสมาชิกคนหนึ่งในคณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางออสเตรเลีย กล่าววานนี้ว่า ความหายนะที่เกิดขึ้นอาจเท่ากับอัตราเติบโตของเศรษฐกิจ 1% หรือร่วมๆ 13,000 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (396,500 ล้านบาท) ซึ่งเป็น 1 เท่าตัวของตัวเลขประมาณการเดิมที่ให้ไว้
คำพูดของแมคคิบบิน เป็นปัจจัยสำคัญทำให้ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียตกลงสู่ระดับ 0.9803 ดอลลาร์อเมริกัน อันเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบ 4 สัปดาห์
ควีนส์แลนด์นั้นเป็นฐานสำคัญของอุตสาหกรรมถ่านหินออสเตรเลีย ขณะที่ออสเตรเลียคือผู้ส่งออกถ่านหินโค้กที่ใช้ในการผลิตเหล็กกล้า เป็นปริมาณกว่าครึ่งหนึ่งของโลก นอกจากนั้นแดนจิงโจ้ยังเป็นอันดับสองของโลกในการส่งออกถ่านหินให้ความร้อน ซึ่งใช้ในโรงไฟฟ้าจำนวนมาก “อุตสาหกรรมถ่านหินจะต้องใช้เวลาอีกหลายสัปดาห์ และในบางกรณีต้องอีกหลายเดือนทีเดียวกว่าจะกลับคืนสู่การผลิตเต็มที่ได้” นายกฯบลิกกล่าว