เอเจนซี - รัฐควีนส์แลนด์ สั่งปิดท่าเรือถ่านหินชั่วคราว พร้อมสั่งอพยพนักท่องเที่ยวออกจากรีสอร์ตในพื้นที่เสี่ยง ก่อนที่พายุไซโคลนขนาดใหญ่จะพัดเข้าชายฝั่งในสัปดาห์นี้
นักอุตุนิยมวิทยา คาดว่า พายุไซโคลนยาซี อาจมีความเร็วลมสูงถึง 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขณะพัดเข้าฝั่งในวันพุธ (2) หรือพฤหัสบดี (3) นี้ ซึ่งจะรุนแรงพอๆ กับพายุเฮอริเคนแคทรินาที่พัดถล่มเมืองนิวออร์ลีนส์ของสหรัฐฯเมื่อปี 2005 และอาจทำให้มีฝนตกหนักไกลถึง 500 กิโลเมตรจากศูนย์กลางพายุ
แอนนา บลาย ผู้ว่าการรัฐควีนส์แลนด์ ระบุว่า “ความเสี่ยงมีสูงมาก มันอาจเป็นพายุลูกหนึ่งที่รุนแรงที่สุดที่เราเคยประสบมา”
เหมืองถ่านหินในรัฐควีนส์แลนด์ซึ่งอยู่ลึกเข้ามาในแผ่นดินน่าจะไม่ได้รับผลกระทบจากไซโคลนยาซีมากนัก แต่ก็อาจเกิดน้ำท่วมขังได้อีกหากมีฝนตกหนัก ซึ่งขณะนี้ทางเหมืองกำลังเร่งระบายน้ำออกหลังเผชิญอุทกภัยครั้งใหญ่
สภาทรัพยากรแห่งรัฐควีนส์แลนด์ ประเมินว่า เหมืองถ่านหินจะกลับมาดำเนินการตามปกติได้ในเดือนมีนาคมนี้ แต่ผลกระทบจากไซโคลนยาซีก็อาจทำให้ล่าช้าออกไปอีก
นักอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า ไซโคลนยาซีอาจมีความรุนแรงถึงระดับ 4 ซึ่งพอๆ กับเฮอริเคนแคทรินา หรือไซโคลน “ลาร์รี” ที่พัดถล่มออสเตรเลียในช่วงต้นปี 2006 โดยขณะนี้พายุดังกล่าวเคลื่อนตัวมาถึงฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิก และคาดว่า จะทำให้มีฝนตกหนักที่เมืองทาวน์สวิลล์ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ตลอดจนแนวชายฝั่งยาวกว่า 1,000 กิโลเมตรของออสเตรเลีย
รัฐควีนส์แลนด์ต้องสั่งปิดอ่าวดาลไรม์เพิล ซึ่งเป็นท่าเรือขนส่งถ่านหินที่ใหญ่ที่สุดของออสเตรเลียวานนี้ (30) เนื่องจากอิทธิพลของพายุไซโคลนแอนโทนี และปิดต่อเนื่องมาจนถึงวันนี้ (31) เพื่อเตรียมรับไซโคลนยาซีซึ่งกำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่ชายฝั่งอย่างรวดเร็ว
เจ้าหน้าที่ยังประกาศเตือนให้ประชาชนกักตุนอาหาร, น้ำดื่ม, ถ่านไฟฉาย และของใช้ที่จำเป็นอื่นๆ เพื่อเตรียมรับมือกับพายุไซโคลนขนาดใหญ่ ที่อาจส่งผลให้สภาพอากาศเลวร้ายต่อเนื่องไปอีกหลายวัน