เอเอฟพี - ราคาน้ำมันปิดผสมผสานเมื่อวันอังคาร (1) โดยช่วงหนึ่งตลาดลอนดอนทะลุ 102 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังนักลงทุนกังวลต่อความไม่สงบของอียิปต์ ขณะที่วอลล์สตรีท บวกแรง ดาวโจนส์พุ่งเหนือ 12,000 จุดเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปี จากผลกระกอบการอันสดใสของบริษัทต่างๆ
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันไลต์สวีตครูตของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมีนาคม ลดลง 1.42 ดอลลาร์ ปิดที่ 90.77 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ทั้งนี้ นักวิเคราะห์มองว่าเป็นผลมาจากความกังวลต่อสต๊อกพลังงานที่เอ่อล้น ณ เมืองคุชชิง โอคลาโฮมา ศูนย์กลางคลังน้ำมันใหญ่ที่สุดในโลกและจุดส่งมอบจุดน้ำมันตามสัญญาตลาดไนเม็กซ์
อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมีนาคม ระหว่างการซื้อขายนั้นทะยานขึ้นไปถึง 102.08 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนกันยายน 2008 ก่อนกลับมาปิดที่ 101.74 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 73 เซ็นต์
ความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันตลาดลอนดอน มีผลมาจากเหตุยุ่งเหยิงในอียิปต์ เนื่องจากประเทศแห่งนี้เป็นที่ตั้งของคลองสุเอซซึ่งใช้ในการลำเลียงขนส่งน้ำมันดิบราว 2.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยเฉพาะน้ำมันดิบชนิดเบรนต์จากทะเลเหนือ ซึ่งปริมาณดังกล่าวมากพอๆ กับกำลังการผลิตน้ำมันต่อวันของประเทศอิรัก หรือบราซิลเลยทีเดียว
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อวันอังคาร (1) ปิดบวกแรงพอสมควร ขณะที่รายงานผลประกอบการอันสดใสในไตรมาส 4 ของบริษัทต่างๆ ผลักให้ดาวโจนส์ขยับเหนือ 12,000 จุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 19 มิถุนายน 2008
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 148.23 จุด (1.25 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 12,040.16 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 43.04 จุด (1.89 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,751.19 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 21.43 จุด (1.67 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,307.55 จุด
