เอเอฟพี - องค์กรอิสระด้านสิทธิมนุษยชนรายงาน วันนี้ (1) ว่า ปี 2010 เป็นช่วงเวลาที่พลเรือนอัฟกานิสถานเสียชีวิตมากที่สุด ตั้งแต่กองทัพสหรัฐฯ กรีธาทัพเข้าโค่นล้มรัฐบาลตอลิบาน โดยปีที่ผ่านมามีผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตมากกว่า 2,400 ราย
ตอลิบาน และกลุ่มหัวรุนแรงอื่นๆ มีส่วนต่อการเสียชีวิตของพลเรือนมากกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ กลุ่มอัฟกานิสถาน ไรต์ส มอนิเตอร์ (เออาร์เอ็ม) รายงาน พร้อมทั้งระบุว่า ฝ่ายกองกำลังนานาชาติที่นำโดยสหรัฐฯ ก็มีส่วนทำให้ประชาชนเสียชีวิตจำนวน 21 เปอร์เซ็นต์
องค์กรสิทธิมนุษยชนดังกล่าวรายงานว่า จำนวนเจ้าหน้าที่กองกำลังอัฟกานิสถานและต่างชาติเพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวี โดยมีเจ้าหน้าที่ทั้งหมดประมาณ 350,000 คน และมีเหตุความไม่สงบเกิดขึ้นมากกว่า 100 ครั้งต่อสัปดาห์ ทั้งนี้ ยอดเจ้าหน้าซึ่งเสียชีวิตแตะระดับสูงในภาวะสงคราม ส่วนจำนวนผู้บริสุทธิ์ที่บาดเจ็บล้มตายก็กลายเป็นสถิติสูงสุด
ในช่วงเดือนมกราคม-ธันวาคม 2010 “มีพลเรือนอัฟกานิสถานอย่างน้อย 2,421 รายถูกสังหาร และมากกว่า 3,270 รายได้รับบาดเจ็บในเหตุความขัดแย้งทั่วทั้งประเทศ” รายงานฉบับดังกล่าวเผย โดยเมื่อปี 2009 มีพลเรือนเสียชีวิต 2,332 ราย
ตัวเลขดังกล่าวทำให้ปี 2010 กลายเป็นปีที่มีผู้เสียชีวิตมากสุด ตั้งแต่สหรัฐฯ และพันธมิตรชาติตะวันตกยกพลเข้ากำราบกลุ่มตอลิบาน เมื่อช่วงปลายปี 2001
“พลเรือนอย่างน้อย 217 รายเสียชีวิต จากการโจมตีทางอากาศของกองกำลังนาโตและสหรัฐฯ อีก 192 ชีวิตถูกกองกำลังนานาชาติยิงตายทั้งโดยตั้งใจและไม่ตั้งใจ” รายงานฉบับนี้ระบุ รวมทั้งอีกประมาณ 12 เปอร์เซ็นต์เสียชีวิต จากน้ำมือของกองกำลังความมั่นคงอัฟกานิสถานเอง
ทั้งนี้ พลเรือนจำนวนหลายพันหลายหมื่นคนถูกบังคับให้ทิ้งบ้านเรือน ท่ามกลางการสู้รบระหว่างกลุ่มหัวรุนแรง กับกองกำลังอัฟกานิสถานและพันธมิตรจากนานาชาติ องค์กรอิสระ เออาร์เอ็ม กล่าวหากำลังทหารที่นำโดยสหรัฐฯ ว่า ให้เงินสนับสนุนกลุ่ม “อาชญากร” ติดอาวุธ เพื่อใช้ต่อกรกับกลุ่มตอลิบานในพื้นที่สงคราม
“กองกำลังติดอาวุธดังกล่าวถูกประชาคมในท้องถิ่นต่อต้าน เนื่องจากปัญหาอาชญากรรม และยังถูกกล่าวหาเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นรุนแรง” รายงานของเออาร์เอ็มระบุ “ยุคใหม่ตามสัญญาของอัฟกานิสถาน กลายสภาพเป็นระบอบการปกครองที่ไร้ประสิทธิภาพ และเต็มไปด้วยปัญหาคอร์รัปชัน รัฐบาลมีแต่จะเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับแกนนำผู้กระหายสงคราม อาชญากร นักค้ายาเสพติด และนักการเมืองใจคด”
อัฟกานิสถานตกอยู่ในสภาพความรุนแรง ตั้งแต่กลางทศวรรษที่ 1970 ประเดิมด้วยการรุกรานของรัสเซีย ตามด้วยสงครามกลางเมือง การครองอำนาจของรัฐบาลตอลิบาน และยกทัพที่นำโดยสหรัฐฯ เพื่อปราบปรามกลุ่มหัวรุนแรงที่มีตอลิบานเป็นแกนนำ