สลัดโซมาเลียเผย ‘ติดคุกเกาหลีใต้’ ยังดีกว่า ‘ชีวิตในบ้านเกิด’

เอเอฟพี - สมาชิกแก๊งโจรสลัดโซมาเลีย ซึ่งถูกทางการเกาหลีใต้ควบคุมตัว เผยความรู้สึก ว่า ชื่นชอบคุณภาพชีวิตในเรือนจำโสมขาวมากกว่าชีวิตที่บ้านเกิด หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นรายงานวันนี้ (1)

เซรุม อับดุลเลาะห์ วัย 21 ปี หนึ่งในโจรสลัดที่ถูกจับกุม ได้ขอร้องต่อเจ้าหน้าที่สืบสวนโสมขาว ให้เขาอยู่ในเกาหลีใต้ต่อไป หนังสือพิมพ์ดองเออิลโบ รายงานอ้างอิงข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ

“โจรสลัดคนอื่นๆ ก็บอกว่า เรือนจำเกาหลีใต้ยังดีกว่าโรงแรมหลายดาวในแอฟริกา”

ผู้ต้องหาคดีปล้นสะดมเรือเกาหลีใต้อีกรายหนึ่งให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวยอนฮับว่า “อาหารเกาหลีอร่อยกว่าที่คิด และเตียง (ในเรือนจำ) ก็นุ่มสบาย ดูเหมือนเกาหลีจะเป็นประเทศที่ดี”

โฆษกตำรวจน้ำเมืองปูซาน ทางตอนใต้ของประเทศ แถลงว่า แก๊งโจรสลัดโซมาเลียได้รับการปฏิบัติตามหลักมนุษยธรรม ซึ่งมีทั้งเครื่องทำความร้อน และเสื้อผ้า เพื่อประทังความหนาวเย็น

“เราให้พวกเขาทานอาหาร ซึ่งมีข้าวสวย เต้าหู้ และ กิมจิ แต่ไม่มีเนื้อหมู ... พวกเขากินอาหารหมดเกลี้ยง และดูเหมือนจะชอบอาหารของเรามาก” โฆษกตำรวจน้ำผู้นี้ กล่าว

เจ้าหน้าที่ตำรวจเกาหลีใต้ยังหาอ่างน้ำให้แก๊งโจรสลัดได้ชำระร่างกาย ก่อนการละหมาด 5 เวลา ตามหลักศาสนาอิสลาม

ตำรวจน้ำเกาหลีใต้ได้ตั้งทีมเฉพาะกิจ 50 คน เพื่อทำคดีโจรสลัดต่างชาติ ซึ่งเป็นครั้งแรกของประเทศ โดยคดีดังกล่าาวถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดจากประเทศที่กำลังเผชิญปัญหาโจรสลัด

กลุ่มโจรสลัดโซมาเลียกลุ่มนี้ได้ปล้นสะดมเรือเดินสมุทรสัญชาติเกาหลีใต้ ในทะเลอาหรับเมื่อวันที่ 15 มกราคม แต่หน่วยคอมมานโดกองทัพเรือโสมขาวได้บุกเข้าช่วยเหลือลูกเรือลำดังกล่าวได้ในอีก 6 วันต่อมา แก๊งโจรสลัดถูกสังหารไป 8 ราย ขณะที่ลูกเรือทั้งหมด 21 คนได้รับการช่วยเหลือ ทว่า ซอค เฮ คยุน กัปตันเรือลำดังกล่าวถูกยิง ได้รับบาดเจ็บสาหัส

แก๊งโจรสลัดโซมาเลียดังกล่าวถูกตั้งข้อหา พยายามฆ่า ปล้นสะดมเรือ และมีการกระทำอันเป็นโจรสลัด

โจรสลัดทั้ง 5 คน อาจต้องโทษจำคุกตลอดชีวิต หากอัยการพิสูจน์ได้ว่า เป็นผู้ยิงกัปตันเรือซัมโฮจิเวลรี หากซอค เฮ คยุนเสียชีวิต พวกเขาอาจต้องโทษถึงขั้นประหารชีวิตตามหลักกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ทางการเกาหลีใต้ไม่เคยประหารชีวิตนักโทษมาตั้งแต่ปี 1997

ตำรวจน้ำเมืองปูซาน ซึ่งควบคุมตัวโจรสลัดโซมาเลียทั้งห้า ตั้งแต่วันอาทิตย์ (30 ม.ค.) แถลงว่า วันนี้เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบกระสุน 3 นัดที่ได้มาจากร่างของกัปตันซอค เฮ คยุน และอาวุธปืนที่ยึดมาจากแก๊งโจรสลัด รวมทั้งตรวจรอยนิ้วมือบนปืนดังกล่าว

ทางตำรวจระบุในคำแถลงว่า ตัวหัวหน้าและรองหัวหน้าของกลุ่มโจรสลัดถูกยิงเสียชีวิตระหว่างปฏิบัติการช่วยเหลือของหน่วยคอมมานโด

คำแถลงดังกล่าวยังระบุว่า อาไร มาโฮเหม็ด ซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัยคนสำคัญที่ยิงกัปตันซอค เฮ คยุน ปฏิเสธหัวชนฝาต่อข้อกล่าวหาดังกล่าว พร้อมทั้งแก้ต่างว่า เขาไม่ได้จับปืนแม้แต่น้อย

ขณะเดียวกัน โจรสลัดอีก 7 คนที่ถูกกองกำลังของมาเลเซียจับได้ระหว่างปฏิบัติการช่วยเหลือเรือบรรทุกน้ำมันในอ่าวเอเดน ถูกนำตัวมาถึงมาเลเซียแล้ววานนี้ (31 ม.ค.) เพื่อรับการพิจารณาคดีจากศาลกัวลาลัมเปอร์