เอเอฟพี - วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ เผย ประธานาธิบดี ฮอสนี มูบารัก ของอียิปต์ จะต้องลงจากตำแหน่ง หลังการประชุมวุฒิสภาแบบปิดในประเด็นเกี่ยวกับการประท้วงอย่างรุนแรงนองเลือดยาวนานร่วมสัปดาห์ ที่เรียกร้องให้ผู้นำจอมเผด็จการรายนี้ออกจากอำนาจ
ส.ว.บิล เนลสัน เขียนบทแสดงความคิดเห็นหลังการประชุมแบบปิดของคณะกรรมการวิสามัญด้านการข่าวกรองเกี่ยวกับสถานการณ์ในอียิปต์ และตูนิเซีย ว่า มูบารักไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ขณะที่เขาใช้กองกำลังรักษาความมั่นคง และระงับการใช้อินเทอร์เน็ต ในการระงับเหตุรุนแรง
“แทนที่จะเป็นเช่นนั้น ประธานาธิบดี มูบารัก จะต้องออกจากตำแหน่ง” เนลสันเสริม แม้จะยังเตือนว่า หากรัฐบาลอียิปต์ล่ม อาจทำให้กลุ่มหัวรุนแรง เช่น กลุ่มมุสลิมบราเธอร์ฮูด อันทรงอิทธิพล กลับมามีอำนาจอีกได้
ถ้อยแถลงของเขามีขึ้นท่ามกลางการประท้วงขับไล่มูบารัคอย่างดุเดือดทั่วประเทศ ที่ล่วงเลยมาเป็นวันที่ 7 สร้างความสั่นคลอนให้กับประเทศ และทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 125 ราย ขณะที่ผู้นำยังยืนกรานที่จะยึดอำนาจ ซึ่งครองมานานถึง 3 ทศวรรษต่อไป
ด้านรัฐบาลของประธานาธิบดี บารัค โอบามา มีท่าทีโต้ตอบอย่างระมัดระวังเกี่ยวกับเหตุจลาจลในประเทศ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในพันธมิตรที่สำคัญที่สุดในตะวันออกกลาง โดยเหมือนจะแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกับผู้ประท้วงที่ต้องการประชาธิปไตย แต่ก็ไม่ได้เรียกร้องให้มูบารักลงจากตำแหน่ง
อียิปต์เป็นเพียง 1 ใน 2 ประเทศอาหรับ นอกเหนือจากจอร์แดน ที่รับรองอิสราเอล อันเป็นพันธมิตรสำคัญของสหรัฐฯ โดยอียิปต์ และอิสราเอล ยังเป็น 2 ประเทศผู้รับความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ มากที่สุด
อย่างไรก็ตาม เนลสัน ชี้ว่า อาจมีทางออกระยะสั้นในการระงับเหตุจลาจล โดยมูบารัคยังครองอำนาจต่อไปได้ แต่ต้องให้การรับรองว่าจะมีการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์และยุติธรรม
ขณะที่ เคย์ แกรนเกอร์ ซึ่งเป็นประธานคณอนุกรรมการจัดสรรด้านปฏิบัติภายใน และต่างประเทศของสภาผู้แทนราษฎร เตือนว่า สหรัฐฯ อาจระงับความช่วยเหลือแก่อียิปต์ไว้ชั่วคราว
ทั้งนี้ ที่ประชุมของวุมิสภายังถกกันถึงเรื่องสถานการณ์ในตูนีเซีย ซึ่งการประท้วงโดยพลังประชาชนทำให้อดีตประธานาธิบดี ซิเน เอล อาบิดิน เบน อาลี ต้องลี้ภัยไปยังซาอุดีอาระเบีย อันเป็นแรงกระตุ้นให้เกิดการก่อจลาจลในอียิปต์ด้วย