เอเอฟพี - ราคาน้ำมันทรุดลงต่ำสุดในรอบเกือบ 2 เดือน แตะ 85 ดอลลาร์เมื่อวันพฤหัสบดี(27) หลังสต๊อกพลังงานสหรัฐฯอยู่ในระดับสูงและญี่ปุ่นถูกลดเครดิตเรตติ้ง ขณะที่วอลล์สตรีท บวกเล็กน้อย จากแรงผลักของผลประกอบการบริษัทต่างๆและตัวเลขอันสดใสของภาคอสังหาริมทรัพย์
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันไลต์สวีตครูตของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมีนาคม ลดลง 1.69 ดอลลาร์ ปิดที่ 85.64 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากช่วงหนึ่งดิ่งลงแตะ 85.51 ดอลลาร์ ต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 52 เซนต์ ปิดที่ 97.39 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ปัจจัยสำคัญที่ฉุดราคาน้ำมันให้ลดต่ำลงคือความกังวลว่าอุปทานกำลังล้นตลาด หลังพบว่าสต๊อกน้ำมันดิบ ณ เมืองคุชชิง มลรัฐโอคลาโฮมาสหรัฐฯ ศูนย์กลางคลังน้ำมันใหญ่ที่สุดในโลกและจุดส่งมอบจุดน้ำมันตามสัญญาตลาดไนเม็กซ์ เพิ่มขึ้นเกินความคาดหมาย ขณะที่ข่าวสแตนดาร์ดแอนด์พัวร์ (เอสแอนด์พี) บริษัทเครดิตเรตติ้งรายยักษ์ของโลกตัดลดอันดับความน่าเชื่อถือของญี่ปุ่นลงมา 1 ขั้น ก็ก่อความวิตกด้านอุปสงค์
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันพฤหัสบดี(27) ปิดบวกในกรอบแคบๆเท่านั้น หลังผลประกอบการอันสวยงามของบริษัทต่างๆและตัวเลขที่สดใสของภาคอสังหาริมทรัพย์ ถูกฉุดรั้งไว้โดยข้อมูลลบจากภาคการผลิตและภาคแรงงาน
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 3.86 จุด (0.03 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 11,989.30 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 15.78 จุด (0.58 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,755.28 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 2.90 จุด (0.22 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,299.53 จุด
ช่วงต้นของการซื้อขายตลาดแกว่งตัวอยู่ในแดนลบตามข้อมูลที่เขย่าความเชื่อมั่นของนักลงทุน จากยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนที่ลดลงอย่างแรงในเดือนธันวาคม และตัวเลขผู้เข้ารับสิทธิประโยชน์คนว่างงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่เพิ่มขึ้นสูงกว่าอัตราเฉลี่ย
อย่างไรก็ตามวอลล์สตรีท ก็สามารถดีดตัวกลับมาปิดบวกได้เล็กน้อย จากรายงานผลประกอบการของบริษัทต่างๆ โดยเฉพาะแคทเตอร์พิลลา และยอดสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายอันสดใสในเดือนธันวาคม
