เอเอฟพี - บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส ลดระดับความน่าเชื่อถือของญี่ปุ่นจาก AA เหลือเพียง AA- พร้อมระบุว่า ญี่ปุ่นอาจต้องประสบภาวะขาดดุลงบประมาณต่อเนื่องไปอีกหลายปี
“การลดระดับความน่าเชื่อถือครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นว่า สัดส่วนหนี้ของรัฐบาลญี่ปุ่นซึ่งอยู่ในกลุ่มสูงที่สุดในบรรดาประเทศที่ถูกจัดอันดับ จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องนานกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ และจะถึงจุดสูงสุดราวกลางทศวรรษที่ 2020” เอส แอนด์ พี เผย
“เรามองว่า รัฐบาลญี่ปุ่นโดยการนำของพรรค เดโมแครติก ปาร์ตี ออฟ เจแปน ยังขาดนโยบายที่สอดคล้องในการจัดการกับปัญหาด้านพลวัตหนี้”
AA เป็นระดับความน่าเชื่ออันดับที่ 4 จากทั้งหมด 22 ระดับ
วันจันทร์ (27) ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี นาโอโตะ คัง แถลงว่า รัฐบาลกำลังร่างข้อเสนอให้ปรับปรุงการเก็บภาษีและกองทุนประกันสังคมทั้งระบบ โดยจะเสร็จสิ้นภายในเดือนมิถุนายนนี้
ญี่ปุ่นมีสัดส่วนหนี้สาธารณะเป็น 2 เท่าของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในกลุ่มประเทศอุตสาหกรรม ค่าใช้จ่ายด้านสวัสดิการและรายได้ที่ติดลบส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากจำนวนผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ประกาศของ เอส&พี ส่งผลให้ค่าเงินเยนอ่อนลงอย่างฮวบฮาบในช่วงเปิดตลาด จาก 82.12 เป็น 83.20 เยนต่อ 1 ดอลลาร์ ก่อนจะฟื้นตัวกลับมาอยู่ที่ระดับ 82 เยนต่อ 1 ดอลลาร์