รอยเตอร์/เอเอฟพี - บรรดารัฐสมาชิกของสมาคมอาเซียน เรียกร้องต้องการให้บรรดาชาติตะวันตกยกเลิกมาตรการลงโทษคว่ำบาตรพม่า ในเมื่อแดนหม่องได้จัดการเลือกตั้งทั่วไป ตลอดจนปล่อยตัวผู้นำฝ่ายค้าน นางอองซานซูจี ไปเมื่อเร็วๆ นี้ ทั้งนี้ เป็นการแถลงของรัฐมนตรีต่างประเทศ มาร์ตี นาตาเลกาวา แห่งอินโดนีเซีย ภายหลังการประชุมหารือระดับรัฐมนตรีต่างประเทศของอาเซียนที่เกาะลอมบ็อก ของแดนอิเหนาวันนี้ (16)
รัฐมนตรีต่างประเทศของอินโดนีเซีย บอกกับผู้สื่อข่าวว่า อาเซียนจะยังคงผลักดันพม่าให้สืบต่อคืบหน้าไปการปล่อยตัวซูจี ด้วยการนำเอาเธอเข้ามาอยู่ในระบบการเมืองด้วย แต่ประเทศต่างๆ ที่ประกาศลงโทษคว่ำบาตรแดนหม่อง ควรที่จะยอมรับทราบความก้าวหน้าที่เกิดขึ้นแล้วจวบจนถึงเวลานี้
อาเซียนเรียกร้องสนับสนุน “ให้บางประเทศที่ได้ใช้มาตรการลงโทษคว่ำบาตรต่อพม่า ดำเนินการยกเลิกหรือลดหย่อนมาตรการดังกล่าวในทันทีหรือในเร็ววัน” นาตาเลกาวา กล่าว
เขาแจกแจงด้วยว่า ควรถือการปล่อยตัวซูจีเป็นเสมือนกระดานหก ที่จะทำให้พม่าบังเกิดความก้าวหน้าอย่างใหญ่โตยิ่งขึ้นในการก้าวเดินสู่ประชาธิปไตย “เธอเป็นบางส่วนของหนทางแก้ไขปัญหา ไม่ใช่เป็นตัวปัญหา” เขาบอกและย้ำว่า พัฒนาการในทางดีๆ ที่เกิดขึ้นมาแล้วนี้ ไม่ควรถูกปล่อยให้สิ้นสูญเปล่าเปลืองไป
พม่าได้จัดการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาทั้งระดับชาติและระดับท้องถิ่นเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว จากนั้นก็ปล่อยตัวอองซานซูจีจากการคุมขังให้อยู่แต่ภายในบริเวณบ้านพัก ถึงแม้การเลือกตั้งซึ่งปรากฏผลว่าพรรคที่กองทัพหนุนหลังอยู่คว้าชัยชนะอย่างถล่มทลาย จะถูกวิพากษ์วิจารณ์หนักว่าเต็มไปด้วยการใช้กลโกงทุจริต ส่วนการปล่อยตัวซูจีก็อยู่ในสภาพที่ไม่ยอมให้เธอมีบทบาททางการเมืองอะไร
นาตาเลกาวา กล่าวว่า อินโดนีเซียซึ่งเป็นประธานตามวาระของสมาคมอาเซียนในปีนี้ ต้องการเห็นความก้าวหน้าในเรื่องพม่า โดยที่หัวข้อนี้ก็เป็นเรื่องแรกที่บรรดารัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนปรึกษาหารือกันในการประชุมที่แดนอิเหนาตามกำหนด 3 วันคราวนี้
ทางด้าน สุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการสมาคมอาเซียน กล่าวภายหลังการหารือของบรรดารัฐมนตรี ว่า “เราได้รับคำมั่นสัญญาว่าพม่าจะเลิกเป็นปัญหาของอาเซียน ในเวลาที่อาเซียนไปพัวพันมีปฏิสัมพันธ์กับประชาคมระหว่างประเทศ” และบอกด้วยว่า อาเซียนกำลังหาทางเข้าให้ถึงพวกผู้นำพม่าให้มากยิ่งขึ้น
เขากล่าวว่า พม่าน่าที่จะขึ้นเป็นประธานอาเซียนในปี 2014 ถึงแม้สิ่งนี้จะบังเกิดขึ้นมาได้ พม่าก็คงจำเป็นที่จะต้องทำให้นานาชาติเกิดความมั่นอกมั่นใจในเสถียรภาพของแดนหม่องเสียก่อน
**พรรคชนกลุ่มน้อยของพม่าก็เรียกร้องให้เลิกคว่ำบาตร**
เมื่อวานนี้เช่นเดียวกัน พวกพรรคการเมืองสำคัญๆ ของชนกลุ่มน้อยในพม่ารวม 5 พรรค ซึ่งต่างได้ที่นั่งจากการลงเลือกตั้งทั่วไปในต้นเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ได้ออกแถลงการณ์ร่วมเรียกร้องให้ชาติตะวันตกยุติการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อพม่า ในเมื่อรัฐสภาใหมมีกำหนดจะเปิดการประชุมในวันที่ 31 มกราคมนี้แล้ว
แถลงการณ์ร่วมระบุว่า การคว่ำบาตร “กำลังสร้างความยากลำบากมากมายขึ้นในด้านสำคัญต่างๆ อย่างเรื่องการค้า, การลงทุน, และเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อการพัฒนาของเขตชนชาติต่างๆ” ดังนั้น พรรคเหล่านี้จึงขอเรียกร้องให้สหรัฐฯ และประเทศยุโรปยกเลิกการลงโทษคว่ำบาตร
พรรคที่ลงนามในแถลงการณ์ร่วมฉบับนี้ ประกอบด้วย พรรคสันนิบาตแห่งชาติรัฐฉานเพื่อประชาธิปไตย (Shan Nationalities Democratic Party หรือ SNDP), พรรคพัฒนาแห่งชาติยะไข่ (Rakhine Nationalities Development Party), พรรคกะฉิ่นแห่งชาติ (Chin National Party), พรรคประชาธิปไตยแห่งภูมิภาคมอญ (All Mon Region Democracy Party), และพรรคประชาธิปไตยฟาลอน-ซาวาว (Phalon-Sawaw Democratic Party)
ทั้ง 5 พรรคต่างชนะได้ที่นั่งจากการเลือกตั้งสมาชิกสภาทั้งระดับชาติและระดับท้องถิ่นเมื่อเดือนพฤศจิกายน โดยพรรคของชนชาติกลุ่มน้อยซึ่งได้ที่นั่งมากที่สุด คือ SNDP ได้ไปทั้งสิ้น 57 ที่นั่ง อย่างไรก็ดี พรรคสหภาพเอกภาพและการพัฒนา (Union Solidarity and Development Party หรือ USDP) ซึ่งหนุนหลังโดยฝ่ายทหาร เป็นผู้กวาดที่นั่งไปได้ถึง 882 ที่นั่ง
