xs
xsm
sm
md
lg

สหรัฐฯย้ำกองทัพ US ยังสำคัญใน “แปซิฟิก” หากต้องการสกัดอิทธิพล “จีน”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รอเบิร์ต เกตส์ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวปาฐกถาที่มหาวิทยาลัยในกรุงโตเกียว ก่อนเดินทางไปเยือนเกาหลีใต้เป็นประเทศสุดท้าย
เอเจนซี - วอชิงตันประกาศ ย้ำว่า ภูมิภาคแปซิฟิกยังคงต้องการกองทัพสหรัฐฯ เพื่อที่จะสกัดกั้นการแผ่อิทธิพลของกองทัพจีน ซึ่งอาจมีท่าทีเป็นปรปักษ์ต่อประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อปักกิ่งเร่งพัฒนากองทัพอย่างกระวีกระวาด ท่าทีล่าสุดของพญาอินทรีมีขึ้นก่อนหน้าที่ประธานาธิบดี หู จิ่นเทา จะไปเยือนกรุงวอชิงตัน ในสัปดาห์หน้า

รอเบิร์ต เกตส์ รัฐมนตรีกลาโหมของสหรัฐฯ กล่าวแสดงปาฐกถาที่มหาวิทยาลัยในกรุงโตเกียววันนี้ (14) ระบุว่า ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการทำสงครามในโลกไซเบอร์ และระบบขีปนาวุธทำลายดาวเทียมของจีน ได้ท้าทายขีดความสามารถในการปฏิบัติการในย่านแปซิฟิกของกองทัพสหรัฐฯ

นายใหญ่เพนตากอน ยังได้ประกาศเน้นย้ำถึงความสำคัญด้านยุทธศาสตร์ของความสัมพันธ์ระดับกลาโหมระหว่างวอชิงตันกับโตเกียว โดยระบุว่า “หากปราศจากทหารอเมริกันซึ่งประจำการอยู่ในญี่ปุ่นขณะนี้ราว 49,000 คน จีนอาจแสดงความก้าวร้าวมากขึ้นต่อบรรดาประเทศเพื่อนบ้าน”

เกตส์ กล่าวโดยอ้างเหตุการณ์ความขัดแย้งระหว่างจีนกับญี่ปุ่นซึ่งปะทุขึ้นจากชนวนเหตุกรณีเกาะพิพาทในทะเลจีนตะวันออกเมื่อปีที่แล้ว ระบุว่า นี่เป็นตัวอย่างหนึ่งที่ตอกย้ำว่า เหตุใดพันธมิตรของญี่ปุ่นอย่างหรัฐฯ จึงมีความสำคัญต่อภูมิภาคนี้อย่างยวดยิ่ง

คำเตือนของเกตส์ มีขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากจีนนำเครื่องบินขับไล่ที่มีเทคโนโลยีหลบหลีกเรดาห์ (สเตลต์) รุ่นแรกของตนออกบินทดสอบครั้งแรก ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่เกตส์เยือนกรุงปักกิ่งหมายจะปรับปรุงความสัมพันธ์ด้านกลาโหมกับจีนที่แตกร้าวมานานเกือบหนึ่งปีเต็มจากชนวนเหตุที่เพนตากอนขายอาวุธล็อตใหญ่ด้วยมูลค่าเป็นประวัติการณ์แก่ไต้หวัน

สหรัฐฯ ยังหวาดวิตกถึงการที่จีนมีแผนจะต่อเรือบรรทุกเครื่องบินจำนวนหลายลำ รวมถึงพัฒนาขีปนาวุธต่อต้านดาวเทียม ตลอดจนระบบอาวุธล้ำสมัยอื่นๆ โดยที่วอชิงตันเกรงว่าอิทธิพลครอบงำของตนในบริเวณภูมิภาคแปซิฟิกจะถูกท้าทายโดยจีน

“คำถามต่างๆ เกี่ยวกับจุดมุ่งหมาย รวมถึงความคลุมเคลือในการสร้างความทันสมัยให้กับกองทัพของจีน สร้างความหวาดระแวงให้แก่ประเทศเพื่อนบ้านทั้งหลาย” เกตส์ กล่าวต่อหน้านักศึกษามหาวิทยาลัยในกรุงโตเกียว

“ข้อสงสัยต่างๆ เกี่ยวกับบทบาทของจีนที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นในภูมิภาคแห่งนี้ สามารถพิจารณาได้จากข้อพิพาทเรื่องดินแดนต่างๆ โดยเฉพาะเหตุการณ์กระทบกระทั่งกันล่าสุดระหว่างปักกิ่งกับโตเกียวในน่านน้ำใกล้กับหมู่เกาะเซนกากุเมื่อเดือนกันยายนปีที่ผ่านมา” บิ๊กเพนตากอน กล่าว

ทั้งนี้ คำพูดเตือนและท่าทีของรัฐมนตรีเกตส์ คราวนี้มีขึ้นก่อนหน้าที่ประธานาธิบดีหู จิ่นเทา ของจีนมีกำหนดจะไปเยือนสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการในวันที่ 19 มกราคมนี้ โดยเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุว่า ประธานาธิบดี บารัค โอบามา เตรียมจะยกประเด็นปัญหาสำคัญทางภูมิรัฐศาสตร์หลายๆ ปัญหามาถกหารือกับผู้นำแดนมังกร อาทิ ปัญหานิวเคลียร์ของอิหร่าน และเกาหลีเหนือ ตลอดจนประเด็นข้อพิพาททางการค้าระหว่างสองมหาอำนาจเศรษฐกิจของโลกคู่นี้
กำลังโหลดความคิดเห็น