เอเอฟพี - เวิลด์แบงก์คาดเศรษฐกิจทั่วโลกจะชะลอตัวลงในปี 2011 พร้อมเตือนว่าราคาสินค้าที่พุ่งขึ้นอาจกระตุ้นให้อัตราเงินเฟ้อสูงทะลุเพดาน กลับไปเป็นเหมือนในช่วงวิกฤตปี 2008
เวิลด์แบงก์ หรือธนาคารเพื่อการบูรณะและพัฒนาระหว่างประเทศ ประเมินว่า เศรษฐกิจโลกในปีนี้จะโตขึ้น 3.3% เมื่อเทียบกับ 3.9% ในปี 2010 ที่กระเตื้องขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปี 2009
รายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลกฉบับล่าสุดของสถาบันแห่งนี้คาดว่า เศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนา และประเทศตลาดเกิดใหม่จะขยายตัวได้ 6.0% ในปีนี้ ซึ่งลดลงจาก 7.0% ในปีก่อน
ทว่า ตัวเลขดังกล่าวยังมากกว่า 2 เท่าของอัตราการเติบโตรายปีในประเทศที่มีรายได้สูง ซึ่งอยู่ที่ 2.4% ในปีนี้ โดยลดลงจากปี 2010 ที่ 2.8%
รายงานฉบับนี้ชี้ว่า โดยรวมแล้ว อัตราการเติบโตดังกล่าวยังอ่อนเกินไปที่จะนำพาเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวได้อย่างมั่นคง
“น่าเสียดายที่อัตราการเติบโตเหล่านี้ไม่เร็วเพียงพอที่จะขจัดปัญหาการว่างงาน และการชะลอตัวของเศรษฐกิจ และภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบรุนแรง”
นอกจากนี้ รายงานของเวิล์ดแบงก์ยังเตือนว่า เศรษฐกิจโลกยังคงมีความตึงเครียด แลความเสี่ยงอยู่ ซึ่งในระยะสั้นอาจทำให้การฟื้นตัวหยุดชะงัก โดยภัยคุกคามเหล่านั้น ได้แก่ วิกฤตตลาดการเงินของยูโรโซน การไหลทะลักของเงินทุน และราคาสินค้าที่ทะยานสูงขึ้น
เวิลด์แบงก์ยังแสดงถึงความกังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับราคาสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอาหาร หรือเชื้อเพลิง ซึ่งได้รับการผลักดันจากนโยบายการเงินที่หละหลวมในประเทศพัฒนาแล้ว และความต้องการสินค้าอย่างต่อเนื่องในตลาดเกิดใหม่
“เรารู้สึกกังวลเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของราคาอาหาร เราเห็นความเหมือนกันกับสถานการณ์ในปี 2008 ไม่นานก่อนวิกฤตการเงินเกิดขึ้น” ฮานส์ ทิมเมอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาของธนาคารกล่าว