นักวิเคราะห์ต่างชาติชี้ “เสื้อแดง”ไม่ชนะ แต่ปัญหายังจะยืดเยื้อ

เอเอฟพี - สำนักข่าวเอเอฟพีเสนอบทวิเคราะห์ที่อ้างอิงความเห็นของนักวิชาการต่างชาติหลายราย ซึ่งระบุว่า แม้จะล่วงเข้าสัปดาห์ที่สองของการชุมนุม และข่าวของผู้ชุมนุม “กลุ่มเสื้อแดง” จะเป็นพาดหัวของสื่อมวลชน แต่แนวโน้มที่ “กลุ่มเสื้อแดง” จะบรรลุเป้าหมายในการกดดันรัฐบาลให้ประกาศยุบสภาเพื่อจัดการเลือกตั้งใหม่ ยังคงเลือนลางเต็มที

แต่กระนั้น ชาวต่างชาติเหล่านี้ก็มองว่า ปรากฏการณ์ที่กลุ่มเสื้อแดงสร้างขึ้นในการชุมนุมครั้งนี้ก็จะส่งผลต่อเนื่องไปอีก และแม้ว่าผู้ชุมนุมจำนวนหนึ่งจะเก็บข้าวของกลับบ้านในต่างจังหวัดกันไปแล้ว ทว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าสถานการณ์จะยุ่งเหยิงไปอีกหลายปี จนกว่าระบบการเมืองของไทยจะสามารถสานต่อความมุ่งหวังต่างๆ ของคนยากจนในชนบทที่ถูกปลุกขึ้นมาด้วยนโยบายประชานิยมของ พ.ต.ท.ทักษิณเมื่อราวสิบปีก่อน

ไมเคิล มอนเตซาโน นักวิชาการจากสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษาในสิงคโปร์ให้ความเห็นว่า “ผมคาดว่าการประท้วงจะล้มเหลว ผมไม่คิดว่าพวกเขาได้ทดสอบรัฐบาลในเชิงพื้นฐานใดๆ เลย” แต่เขาเสริมว่าการดำเนินการของทั้งสองฝ่ายล้วนแต่เกินความคาดหมายของเขา

ทางด้าน บ็อบ บรอดฟุต จาก บริษัทที่ปรึกษาด้านความเสี่ยงทางการเมืองและเศรษฐกิจ (Political and Economic Risk Consultancy หรือ PERC) กล่าวว่าประเทศไทย คงต้องใช้เวลาอีกหลายปีเพื่อแก้ปัญหา เพราะทักษิณเป็นนักการเมืองคนแรกที่ชูนโยบายประชานิยม เขารู้ว่าจะมัดใจประชาชนส่วนใหญ่ได้อย่างไร

“และถึงจะกำจัดเขาไปได้ แต่ประชาชนส่วนใหญ่ยังอยู่ และถึงคนส่วนใหญ่อาจจะไม่มีการศึกษาแต่ก็ไม่ได้โง่เง่า และพวกเขาจะไม่ยอมให้ตนเองถูกกีดกันออกไปจากระบบอีกแล้ว”

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงในครั้งนี้จะได้รับการยอมรับเนื่องจากไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น ซึ่งผิดกับเหตุจลาจลเมื่อปีที่แล้วที่มีผู้เสียชีวิตไป 2 คน แต่พวกนักวิเคราะห์มองว่าผู้ชุมนุมต้องยกระดับเคลื่อนไหวให้มากกว่าการชุมนุมบนท้องถนน

“ในช่วงนี้ พวกเขาขาดอุดมการณ์การต่อสู้ พวกเขาคิดคำหรูๆ ทำเป็นสติ๊กเกอร์ออกมา ... แต่จะต้องเริ่มระบุให้ชัดเจนว่าสโลแกนเหล่านั้นหมายความว่าอย่างไรกันแน่” เจมส์ ไคลน์ จากมูลนิธิเอเชียกล่าว