เอเอฟพี - รัฐสภายูเครนเมื่อวันพุธ (3) ลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีหญิง ยูเลีย ติมอเชงโก บีบให้เธอลาออกจากตำแหน่ง ความเคลื่อนไหวที่เป็นการเพิ่มอำนาจแก่วิคเตอร์ ยานูโกวิช ประธานาธิบดีคนใหม่
เสียงส่วนใหญ่ของรัฐสภา 243 เสียง ลงมติไม่ไว้วางใจที่ยื่นญัตติโดยพรรครีเจียนส์ของนายยานูโกวิช ที่เอาชนะนางติมอเชงโก ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อเดือนที่แล้ว
ฝ่ายค้านต้องการเพียงอย่างน้อย 226 เสียง จาก 450 เสียงในรัฐสภาเพื่อสนับสนุนญัตติไม่ไว้วางใจนี้ ทั้งนี้ แม้เธอเพิ่งพ่ายแพ้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี แต่ ติมอเชงโก ก็ยังคงยึดครองเก้าอี้นายกรัฐมนตรีจนกระทั่งตอนนี้
ก่อนหน้าเปิดประชุม ติมอเชงโก ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาตั้งแต่ปี 2007 บอกกับรัฐสภาว่าเธอและรัฐบาลจะยอมลงจากเก้าอี้หากมติไม่ไว้วางใจได้รับความเห็นชอบและจะขอทำหน้าที่ฝ่ายค้านต่อไป
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีความเห็นล่าสุดมาจาก ติมอเชงโก หลังจากลงมติ แต่ ส.ส.รายหนึ่งในพรรคของเธอ บอกกับหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นว่า ติมอเชงโก จะแถลงลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในหนึ่งหรือสองวันนี้
ภายใต้รัฐธรรมนูญของยูเครน เวลานี้รัฐบาลต้องพ้นจากตำแหน่งโดยอัตโนมัติ แม้ว่าพวกเขาสามารถทำหน้าที่รักษาการณ์จนกว่ารัฐบาลชุดใหม่จะได้รับการแต่งตั้งก็ตาม
เสียงส่วนใหญ่ของ ติมอเชงโก หดหายลงไป หลังจาก ส.ส.7 คน จากพรรคการเมืองขนาดเล็กและมากกว่า 30 คนจากพรรคพันธมิตรร่วมรัฐบาล เกิดแปรพักตร์ตามหลังความพ่ายแพ้ศึกเลือกตั้งเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ และหันมาลงมติไม่ไว้วางใจเธอ
ณ ตอนนี้ทางพรรครีเจียนส์ มีเวลา 30 วัน สำหรับจัดตั้งรัฐบาลผสม แต่หากล้มเหลว ยานูโกวิช มีอำนาจสั่งยุบสภาและจัดการเลือกตั้งใหม่ในฐานะประธานาธิบดี
สื่อมวลชนยูเครน คาดคะเนว่า ยานูโกวิช จะผลักดันนายมีโคลา อะซารอฟ พันธมิตรใกล้ชิดและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของพรรครีเจียนส์นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี
อย่างไรก็ตาม ความพยายามของเขาอาจถูกโน้มน้าวจากบุคคลสำคัญนอกพรรคที่มีเสียงเรียกร้องอย่างกว้างขวางให้พิจารณามอบตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแก่นักการเมืองคนหนุ่มอย่างนายเซอร์เก ทิกิปโคและนายอาร์เซนี ยัตเซนิอุค ซึ่งคว้าอันดับ 3 และ 4 ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีตามลำดับ
นอกจากนี้ ยังมีข่าวลือใหม่ว่า อันนา เกอร์มัน ผู้ช่วยระดับสูงของยานูโกวิช โน้มน้าวเขาว่า อดีตประธานาธิบดีวิคตอร์ ยุชเชนโก ก็อาจเหมาะสมกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี