เอเอฟพีชี้ “คำพิพากษา” จะทำให้การเมืองไทยปั่นป่วนอีกครั้ง

เอเอฟพี - ศาลฎีกาไทยจะตัดสินในวันนี้(26) ว่า จะยึดทรัพย์ 76,000 ล้านบาท(2,300 ล้าน) ของอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร หรือไม่ ขณะที่สำนักข่าวเอเอฟพีระบุคำพิพากษาอาจจะทำให้การเมืองไทยปั่นป่วนขึ้นมาอีกครั้ง ด้านอดีตผู้นำที่กลบหนีคดีอยู่ในต่างแดน ยืนกรานว่า หาเงินมาโดยอย่างสุจริต

เอเอฟพีเกาะติดสถานการณ์ในไทย โดยรายงานว่า สื่อท้องถิ่นในระบุว่า วันนี้เป็น “วันพิพากษา” ชี้ชะตาอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดทั่วประเทศ หลังจากกลุ่มผู้สนับสนุนอดีตนายกรัฐมนตรีขู่ว่าอาจจะเกิดความรุนแรงขึ้น สถานีโทรทัศน์รายงานว่าผู้พิพากษาเดินทางมาถึงศาลในกรุงเทพฯ แล้ว และกำลังหารือการตัดสินใจของตัวเอง และจะประกาศผลให้ทราบออกมาอย่างเป็นทางการในไม่ช้านี้

คดียึดทรัพย์ 76,000 ล้านบาท เกี่ยวข้องกับการขายบริษัทสื่อสารโทรคมนาคมของอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณในปี 2006 ซึ่งเป็นปีที่เขาถูกโค่นล้มอำนาจจากรัฐประหาร อย่างไรก็ตาม เขายืนกรานมาตลอดว่าเป็นเงินที่เขามาได้อย่างสุจริต

“ผมขอยืนยันอีกครั้งว่า ผมและครอบครัวได้เงินทั้งหมดนั้นมาจากการลงแรงทำงานหนัก จากมันสมอง และหยาดเหงื่อของเราเอง เราไม่เคยคอร์รัปชันอย่างที่ถูกกล่าวหา” ทักษิณซึ่งอยู่ในดูไบทวิตเตอร์บอกตั้งแต่เช้าตรู่วันนี้ และเรียกร้องให้ผู้สนับสนุนของเขา หรือที่รู้จักกันดีว่าเป็น “พวกเสื้อแดง” ไม่ให้มาประท้วงที่ศาล โดยระบุว่าครอบครัวของเขาก็จะไม่มาด้วยเช่นกัน

เอเอฟพีระบุว่า ทหารและตำรวจ 35,000 คนตรึงกำลังรักษาการณ์ในกรุงเทพฯ และตามจังหวัดต่างๆ ที่เป็นฐานความนิยมของอดีตพ่อมดวงการโทรคมนาคมไทย โดยที่ศาลฎีกาเพียงแห่งเดียวมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคุ้มกันราว 450 คน นอกจากนี้ยังมีการรักษาควาามปลอดภัยอย่างเข้มงวดรอบทำเนียบนายกรัฐมนตรีของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ด้วย

ด้าน นายฐิตินันท์ พงษ์สุทธิรักษ์ นักวิเคราะห์การเมือง เขียนบทความลงหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัลว่า ไทยกำลังหวาดกลัวกับคำพิพากษาของศาลในวันนี้

“ไม่ว่าความมั่งคั่งของเขาจะถูกจัดการอย่างไร ก็จะทำให้การเมืองไทยแบ่งขั้ว สิ่งที่แน่นอนเพียงอย่างเดียว คือ จะไม่มีใครพอใจกับคำพิพากษาทั้งหมด” นายฐิตินันท์กล่าว