xs
xsm
sm
md
lg

รองผู้นำเก่า-ใหม่สหรัฐฯ สาดสงครามน้ำลายผ่านสื่อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอเอฟพี - โจ ไบเดน รองประธานาธิบดีสหรัฐฯคนปัจจุบัน ทำสงครามน้ำลายกับกับดิค เชนีย์ อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯสมัยจอร์จ ดับเบิลยูบุช ผ่านรายการทอล์คโชว์ทางสถานีโทรทัศน์มื่อวันอาทิตย์(14) ทั้งในเรื่องนโยบายการต่างประเทศ และเรื่องความมั่นคง หลังจากเชนีย์ วัย 69 ปีระบุ ประธานาธิบดีโอบามาว่าอ่อนด้อยประสบการณ์ในการจัดการกับปัญหาการก่อการร้าย
ดิค เชนีย์ อดีตรองประธานาธิบดีสมัยบุช จากพรรคริพลับลิกัน
เชนีย์ วัย 69 ปี ระบุว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา และพวกเดโมแครตอ่อนด้อยประสบการณ์ในเรื่องความมั่นคง เขากล่าวว่า ไบเดนเข้าใจผิดอย่างร้ายแรง เมื่อกล่าวว่า การโจมตีระดับเดียวกับเหตุวินาศกรรม 11 กันยาฯ ไม่มีแนวโน้มจะเกิดขึ้น

ด้านไบเดน ออกมาโต้ข้อกล่าวหา โดยกล่าวในรายการทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซีว่า เชนีย์พยายามจะบิดเบือนประวัติศาสตร์ ด้วยการกล่าวหาว่าประธานาธิบดีโอบามาอ่อนด้อยประสบการณ์ เพราะได้รับข้อมูลผิดพลาด หรือไม่ก็กำลังพยายามให้ข้อมูลผิดพลาดต่อชาวอเมริกันอย่างจงใจ

การให้สัมภาษณ์ตอบโต้กันแสดงให้เห็นความขัดแย้งกันอย่างรุนแรงทั้งในเรื่องการต่างประเทศแฃะนโยบายเรื่องความมั่นคงแห่งชาติระหว่างทั้งสองฝ่ายที่เป็นคู่แข่งกันมาอย่างยาวนาน

เชนีย์ ผู้วางนโยบายสายเหยี่ยวในด้านภัยก่อการร้ายในสมัยประธานาธิบดีบุช กล่าวว่า เขาสนับสนุนวิธี "วอเทอร์บอร์ดดิ้ง" (กดหัวลงน้ำ) และชี้ว่าควรจะใช้วิธีนี้กับอุมาร์ ฟารุก อับดุลมูตาลับ นักศึกษาชาวไนจีเนีย ที่พยายามวางระเบิดโจมตีเครื่องบินของสายการบินนอร์ทเวสต์ เมื่อวันคริสต์มาสที่ผ่านมาด้วย

วอเทอร์บอร์ดดิ้งเป็นวิธีการสอบสวนในยุคบุช หลังจากเกิดวินาศกรรม 11กันยาฯ เพื่อเค้นข้อมูลจากผู้ต้องสงสัยสมาชิกกลุ่มอัลกออิดะห์ แต่ในยุคโอบามา กลับระบุว่า ทั้งวอเทอร์บอร์ดดิ้ง ตลอดจดวิธีการรุนแรงอื่นๆ อยู่นอกกฎหมาย และขัดแย้งกับอุดมคติอเมริกัน

รัฐบาลโอบามา ปฏิเสธที่จะใช้กลยุทธ์ในสงครามต่อต้านการก่อการร้ายสมัยบุช-เชนีย์ เมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว โอบามา กล่าวว่า วิธีปฏิบัติต่อนักโทษที่มีอยู่สร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์และจุดยืนของสหรัฐฯในสายตาโลก "อย่างไม่น่าเชื่อ"

โอบามา พยายามอย่างยิ่งที่จะปิดเรือนจำกักขังผู้ต้องสงสัยก่อการร้ายในอ่าวกวนตานาโมของกองทัพในปีแรกที่เขาทำงานแต่ไม่สำเร็จ ขณะที่พยายามปรับทิศทางนโยบายการต่างประเทศของสหรัฐฯจากจุดยืนแข็งกร้าวของบุช ไปสู่การเข้าไปพัวพันตามแนวทางการเผชิญหน้าน้อยลง
โจ ไบเดน รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ
ไบเดน กล่าวว่า ทางการกำลังจะได้ข้อมูลสำคัญจากอับดุลมูตาลับ หลังเขาเปิดปากออกมา เพราะรัฐบาลใช้วิธีการที่เหมาะสมจนทำให้เขาค่อยๆ พูดออกมา ทั้งยังปฏิเสธข้อเสนอจากพรรคริพลับลิกันที่ต้องการส่งตัวคนร้ายรายนี้ไปอยู่ภายใต้การควบคุมของกองทัพ

ด้านเชนีย์ กล่าวหาว่าโอบามา วางกรอบการก่อการร้ายโจมตีสหรัฐฯตามกฏหมายอาญา และคัดค้านแนวทางให้เป็นภัยตามรัฐบัญญัติสงคราม

"ผมคิดว่าเราควรจะจัดการกับมันในแบบสงคราม นี่เป็นภัยคุกคามต่อประเทศ และผมก็คิดว่านั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมเราจึงประสบความสำเร็จในการขัดขวางไม่ให้เกิดการโจมตีขึ้นมาอีกในตลอด 7 ปีครึ่ง" เชนีย์กล่าว และยังพยายามปกป้องการใช้เรือนจำคุมนักโทษก่อการรายในอ่าวกวนตานาโม นอกจากนี้ ยังโจมตีการตัดสินใจของโอบามาที่ให้ดำเนินคดีกับคอลิด ชีค โมฮัมหมัด จอมบงการเหตุวินาศกรรม 11 กันยาฯ ในศาลพลเรือนด้วย

"มันเป็นความผิดพลาดใหญ่ ใหญ่มาก มันจะทำให้เขามีเวทีขนาดใหญ่ในการป่าวประกาศโฆษณาชวนเชื่อไปทั่วโลก ผมคิดว่าเขาควรจะถูกดำเนินคดีที่กวนตานาโมต่อหน้ากรรมาธิการทหารมากกว่า" เชนีย์กล่าว

เชนีย์ ถูกกล่าวหาว่าพยายามปกป้องวิธีการสอบสวนที่ดูเหมือนเป็นการทรมานนักโทษจนทำให้ความรู้สึกต่อต้านชาวอเมริกันเพิ่มมากขึ้นในโลกมุสลิม ขณะที่ไบเดน วัย 67 ปี ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะกรรมาธิการการต่างประเทศของวุฒิสภาอันทรงอิทธิพลระบุว่า ถ้าเชนีย์ไม่ได้รับข้อมูลผิดพลาดก็กำลังให้ข้อมูลที่ผิดพลาดต่อชาวอเมริกันอย่างจงใจ

"ผมไม่รู้ว่าเชนีย์อยู่ไหนมา ดู มีบางอย่างที่ต้องวิจารณ์ มันเป็นความพยายามเขียนประวัติศาสตร์ใหม่อีกครั้ง ตอนนี้เขากำลังพูดอะไรอยู่นะ" ไบเดนกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น