เอเจนซี - ผู้พิพากษาสูงสุดของอิหร่านเมื่อวันจันทร์(1) ยืนยันจะไม่ตกอยู่ในอำนาจแรงกดดันทางการเมืองจากพวกหัวรุนแรงที่ต้องการให้ลงโทษประหารชีวิตกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาล ระบุคำตัดสินคดีจะเป็นไปตามหลักฐานทางกฎหมาย
อิหร่านแขวนคอนักโทษ 2 คนเมื่อเดือนที่แล้วในความผิดเชื่อมโยงกับเหตุความไม่สงบที่ปะทุขึ้นตามหลังศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนมิถุนายนปีก่อน โดยคำสั่งประหารชีวิตดังกล่าวถูกประณามจากองค์กรสิทธิมนุษยชนและชาติตะวันตกซึ่งทางเตหะรานกล่าวหาว่าอยู่เบื้องหลังฝ่ายต่อต้านรัฐบาล
"ข้อเรียกร้องนี้(จากกลุ่มหัวรุนแรง) เป็นธรรมชาติของการเมือง ซึ่งไม่ถูกต้องตามกฎหมายและกฎหมายอิสลาม" คำพูดของผู้พิพากษา ซาเดก ลาริจานี ที่โพสต์บนเว็บไซต์สถาบันตุลาการระบุ
กลุ่มหัวรุนแรงบางส่วน ในจำนวนนั้นรวมไปถึงนักเทศน์ผู้ทรงอิทธิพลรายหนึ่ง เรียกร้องให้ศาลลงโทษประหารชีวิตผู้สนับสนุนฝ่ายต่อต้านรัฐบาลเพิ่มเติมเพื่อยุติการชุมนุมที่ยังจัดขึ้นเป็นระยะๆ แม้ว่าโดนรัฐบาลปราบปรามอย่างรุนแรงและมีคนถูกจับกุมไปจำนวนมากก็ตาม
อย่างไรก็ตามทาง ลาริจานี ไม่ปฏิเสธถึงความเป็นไปได้ที่จะลงโทษประหารเพิ่มเติมสำหรับบุคคลที่ละเมิดกฎหมายอิสลาม "การพิจารณาคดีของผู้ถูกจับกุม เราจะพิจารณาตามหลักของกฎหมายและกฎหมายอิสลาม (ซึ่งบังคับใช้ในอิหร่านนับตั้งแต่เหตุปฏิวัติอิสลามในปี 1979)"
สำหรับนักโทษ 2 คนที่ถูกประหารชีวิตนั้นเป็นสมาชิกของกลุ่มต่อต้านการปฏิวัติ ซึ่งวางแผนซุกซ่อนระเบิดและลอบสังหารบรรดาเจ้าหน้าที่เพื่อสร้างความตึงเครียดในอิหร่านในวันเลือกตั้งและหลังจากนั้น ขณะที่นักโทษคนอื่นๆอีก 9 คนซึ่งถูกพิพากษาแขวนคอเช่นกันกำลังอยู่ขั้นอุทธรณ์
มีร์-ฮอสเซน มูซาวี และเมห์ดี คารูบี แกนนำฝ่ายค้าน 2 ผู้ฝ่ายแพ้ศึกเลือกตั้ง ประณามคำสั่งแขวนคอดังกล่าว และเรียกร้องกลุ่มผู้สนับสนุนร่วมชุมนุมกันอีกครั้งในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ซึ่งตรงกับวันครบรอบ 31 ปีแห่งการปฏิบัติอิหร่าน
พวกหัวรุนแรงเตือนว่าพวกเขาจะไม่อดทนต่อการประท้วงต่อต้านรัฐบาลอีกต่อไปหลังจากเกิดเหตุนองเลือดในการชุมนุมระหว่างพิธีอาชูรอ วันที่ 27 ธันวาคม จนมีผู้เสียชีวิต 8 รายและมีผู้ถูกจับกุมกว่า 1,000 คน