เอเอฟพี - รัฐบาลฟิลิปปินส์เสนอเพิ่มอำนาจปกครองตนเองให้แก่กลุ่มกบฏแบางแยกดินแดนมุสลิม ด้วยความหวังว่าจะบรรลุถึงข้อตกลงสันติภาพ เพื่อยุติเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นมายาวนานถึง 40 ปีแล้วในพื้นที่ไม่สงบในทางใต้ของประเทศ
แอนนาเบล อาบายา หัวหน้าคณะเจรจาของรัฐบาลฟิลิปปินส์ แสดงความหวังว่า ข้อเสนอเพิ่มอำนาจปกครองตนเองจะโน้มน้าวทำให้กลุ่มแนวหน้าเพื่อปลดปล่อยมุสลิมโมโร(MILF) ยอมลงนามข้อตกลงสันติภาพกับรัฐบาล ก่อนที่ประธานาธิบีดคนใหม่จะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 30 มิถุนายนนี้ โดยรัฐบาลจะแบ่งอำนาจให้ชนกลุ่มน้อยมุสลิม เช่น การเก็บภาษี การควบคุมทรัพยากร ในพื้นที่ทางตอนใต้ที่ชาวมิสลุมอ้างว่าเป็นของบรรพบุรุษของพวกเขา
ข้อเสนอดังกล่าว เกิดขึ้นระหว่างการเจรจาระหว่างผู้แทนของเอ็มไอแอลเอฟและรัฐบาลฟิลิปินส์ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซีย เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นับเป็นการเจรจาเพื่อหาข้อตกลงสันติภาพร่วมกันเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ความรุนแรงเริ่มปะทุขึ้น ในปี 2008 เมื่อร่างข้อตกลงสันติภาพประสบความล้มเหลวเนื่องจากศาลสูงสุดมีคำพิพากษาว่า ร่างข้อตกลงดังกล่าวขัดกับรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตาม อาบายา กล่าวย้ำว่า ข้อเสนอใหม่ล่าสุดนี้ไม่ได้กำลังพยายามจะแบ่งแยกประเทศ หรือเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด
ด้านกลุ่มเอ็มไอแอลเอฟ ออกแถลงการณ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ระบุว่าข้อเสนอของรัฐบาลไม่ใช่สิ่งใหม่ ดังนั้น กลุ่มกบฏจึงตัดสินใจยุติการเจรจารอบล่าสุด
อย่างไรก็ตาม อาบายา เผยว่า หลังจากมีการแลกเปลี่ยนร่างข้อตกลงระหว่างทั้งสองฝ่ายแล้ว ทั้งสองฝ่ายตกลงว่าจะมีการเจรจาข้อตกลงสันติภาพรอบใหม่ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ วันที่ 18 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งทั้งฝ่ายรัฐบาลและกลุ่มกบฏตกลงจะนำร่างข้อตกลงกลับไปหารือกับประชาชนของตนก่อนเริ่มการเจรจาอีกครั้ง
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีกลอเรีย อาร์โรโย เปิดการเจรจาสันติภาพกับกลุ่มกบฏ ซึ่งมีสามาชิก 12,000 คน เป็นครั้งแรกในปี 2001 เพื่อยุติความไม่สงบในพื้นที่ทางใต้ โดยในช่วงสถานการณ์เลวร้ายที่สุด มีคนพลัดถิ่นเพราะการสู้รบมากกว่า 70,000 คน และมีผู้เสียชีวิตเกือบ 400 คน