เอเจนซี/ASTV ผู้จัดการรายวัน - ฮุสเซน อัล ชาห์ริสทานี รัฐมนตรีน้ำมันอิรัก กล่าวที่กรุงแบกแดดวันเสาร์ (30)ว่า อิรักจะกลายเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลกภายใน 6-7 ปี โดยจะมีกำลังการผลิตน้ำมันสู่ตลาดโลกถึง 12 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งมากกว่าที่สมาชิกโอเปกอื่นๆ และผู้ผลิตรายใหญ่นอกโอเปกจะผลิตได้
รัฐมนตรีน้ำมันอิรักระบุว่า สาเหตุหลักที่อิรักกล้าประกาศตัวจะเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่สุดในอนาคต เป็นเพราะที่ผ่านมารัฐบาลอิรักประสบความสำเร็จอย่างงดงามในการทำข้อตกลงกับบริษัทน้ำมันจากทั่วโลก ให้เข้ามาพัฒนาแหล่งน้ำมันใหม่ๆ จำนวนมาก รวมถึงการเปิดประมูลบ่อน้ำมัน 2 ครั้งเมื่อปีที่แล้ว ขณะเดียวกัน การที่อิรักก้าวพ้นช่วงเวลาแห่งสงคราม ความขัดแย้งและการคว่ำบาตรจากนานาชาติตลอดหลายปีที่ผ่านมา ทำให้อิรักสามารถกลับมาเดินหน้าผลิตน้ำมันได้อย่างเต็มที่อีกครั้ง
ชาห์ริสทานียังเผยว่า อิรักเตรียมยื่นข้อเสนอต่อกลุ่มโอเปกภายในปี 2011 เพื่อให้พิจารณาปรับโควตาการผลิตของสมาชิกแต่ละประเทศใหม่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันยิ่งขึ้น แทนการใช้โควตาการผลิตแบบเดิมซึ่งกำหนดขึ้นตั้งแต่ช่วงที่อิรักถูกคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจจนไม่สามารถผลิตน้ำมันได้อย่างเต็มที่ ทำให้สมาชิกอื่นๆได้รับประโยชน์มหาศาลจากการผลิตน้ำมันแทนที่อิรักตลอดหลายปีที่ผ่านมา
ข้อมูลล่าสุดของสำนักงานบริหารข้อมูลด้านพลังงานของสหรัฐฯ (อีไอเอ) ระบุว่าปัจจุบันอิรักเป็นผู้ผลิตน้ำมันอันดับที่ 13 ของโลกโดยมีกำลังการผลิตราว 2,385,000 บาร์เรลต่อวัน แต่การที่อิรักยังมีน้ำมันสำรองใต้ดินอยู่มากเป็นอันดับ 3ของโลกถึง 115,000 ล้านบาร์เรลซึ่งสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้มากกว่า150 ปี ทำให้เป็นไปได้เช่นกันที่อิรักอาจแซงหน้าซาอุดีอาระเบีย รัสเซีย สหรัฐฯ อิหร่าน และจีน ขึ้นสู่ฐานะผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลกได้ในอนาคต