เอเอฟพี - องค์การสหประชาชาติ(UN) เผยว่า แผ่นดินไหวเป็นหายนะที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา และยังเป็นภัยคุกคามสำคัญของโลก หลังรายงานพบว่า เกือบร้อยละ 60 ของผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติต่างๆ ตั้งแต่ปี 2000-2009 เป็นผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหว ขณะที่สภาพอากาศส่งผลกระทบต่อคนมากกว่า โดยเกือบ 3 ใน 4 จากจำนวน 2 พันล้านคน ได้รับภัยพิบัติจากสภาพอากาศ
ผลการศึกษาของสหประชาชาติระบุว่า พายุเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตร้อยละ 22 ขณะที่สภาพภูมิอากาศรุนแรงเป็นสาเหตุร้อยละ 11 จากภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในโลก 3,852 ครั้ง นับตั้งแต่ปี 2000-2009 เป็นต้นมา
เจ้าหน้าที่และนักค้นคว้ายังคงแนะให้ตื่นระวังกับภัยพิบัติที่เกิดขึ้นจากสภาพอากาศ เนื่องจากยอดเกิดภัยพิบัตประเภทนี้เพิ่มมมากขึ้นกว่าเท่าตัว เมื่อเปรียบเทียบกับทศวรรษที่แล้ว ขณะที่มูลค่าความเสียหายมีถึง 960,0000 ล้านดอลลารสหรัฐฯ ตามรายงานของศูนย์วิจัยภัยพิบัติ(CRED) แห่งมหาวิทยาลัยคาทอลิกยูนิเวอร์ซิตี้ออฟลูแวง ในเบลเยียม
มากาเรตตา วอลสตรอม ผู้แทนพิเศษของสหประชาชาติเพื่อการลดความเสี่ยงเกิดภัยพิบัติ กล่าวว่า แผ่นดินไหว เป็นภัยอันตรายจากธรรมชาติที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา และยังเป็นภัยคุกคามอันน่ากลัวสำหรับคนนั้บล้านในทั่วโลก เพราะ 8 ใน 10 เมืองที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในโลกตั้งอยู่บนแนวแผ่นดินไหว
อย่างไรก็ตาม มีเพียงร้อยละ 4 ที่เป็นผู้ประสบภัยจากแผ่นดินไหวในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ขณะที่ร้อยละ 44 เป็นเพราะน้ำท่วม และร้อยละ 30 มีสาเหตุมาจากความแห้งแล้ง
ทั้งนี้ ภัยพิบัติร้ายแรงที่สุดในช่วง 10 ปีแรกของศตวรรษที่ 21 ได้แก่ สึนามิในมหาสมุทรอินเดียในปี 2004 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 226,408 คนในหลายประเทศ , พายุไซโคลนนากิสในพม่า ในปี 2008 ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 136,366 คน และแผ่นดินไหวในมณพลเสฉวนของจีน ในปีเดียวกัน ทำให้มีผู้เสีบชีวิต 87,476 คน นอกจากนี้ ยังมีผู้เสียชีวิต 73,338 คนจากแผ่นดินไหวในปากีสถานเมื่อปี 2005 และ 72,210 คนจากคลื่นความร้อนในยุโรป เมื่อปี 2003 ด้วย
สำหรับทศวรรษปัจจุบันนี้ เริ่มต้นด้วยหายนะที่ไม่เลวร้ายไม่แพ้กัน ด้วยเหตุแผ่นดินไหวถล่มกรุงปอร์โตแปรงซ์ และพื้นที่โดยรอบของเฮติ เมื่อ 12 มกราคมที่ผ่านมา คาดว่าจะมีผู้เสียชีวิต 170,000 คน
