เอเอฟพี - ราคาน้ำมันเมื่อวันพฤหัสบดี(21) ร่วงลงอีก 1.66 ดอลลาร์ ดิ่งรวม 2 วันกว่า 3 ดอลลาร์ จากรายงานที่บ่งชี้ถึงอุปสงค์อันอ่อนแอในสหรัฐฯ ชาติผู้บริโภครายใหญ่ที่สุดในโลก ขณะที่วอลล์สตรีท ปิดในแดนลบ หลังมีความกังวลต่อข่าวจีนเตรียมชะลอการเติบโตทางเศรษฐกิจ
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมีนาคม ลดลง 1.66 ดอลลาร์ ปิดที่ 76.08 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเมื่อวันพุธ(20) ปิดลบ 1.40 ดอลลาร์ ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 1.74 ดอลลาร์ ปิดที่ 74.58 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันขยับลงอย่างแรง ตามหลังรายงานของกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ที่ระบุว่าคลังน้ำมันเบนซินสำรองของประเทศในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 15 มกราคม เพิ่มขึ้นเกินคาดถึง 3.9 ล้านบาร์เรล แตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี ขณะที่คลังน้ำมันดิบสำรองลดลง 400,000 บาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดหมายไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 1.8 ล้านบาร์เรล
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันพฤหัสบดี(21) ปิดลบเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันท่ามกลางความกังวลว่าจีนอาจชะลอการเติบโตทางเศรษฐกิจและความตื่นตระหนกว่ากฎระเบียบอันเข้มงวดต่อแบงค์ต่างๆจะกระทบต่อภาคธนาคาร
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 189.46 จุด (1.79 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 10,413.69 จุด แนสแดค ลดลง 22.27 จุด (0.97 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,268.98 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 17.87 จุด (1.57 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,120.17 จุด
ในช่วงต้นของการซื้อขาย ตลาดเคลื่อนไหวผันผวน เหตุนักลงทุนตรึกตรองข่าวสารทั้งบวกและลบ ระหว่างผลประกอบการไตรมาส 4 อันแข็งแกร่งของธนาคารยักษ์โกลด์แมนแซคส์ และตัวเลขผู้เข้ารับสิทธิประโยชน์คนว่างงานที่เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตามท้ายที่สุดแล้วตลาดก็ดำดิ่งสู่แดนลบ หลังจาก จีน เปิดเผยตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจ 8.7 เปอร์เซ็นต์ในปี 2009 ทว่าก็มุ่งหน้าเข้าสู่ภาวะเงินเฟ้อในช่วงปลายปี บ่งชี้ว่าอาจร้อนแรงเกินไป