เอเจนซี - ราคาน้ำมันดิ่งอีกเกือบ 2 ดอลลาร์ ลงไปต่ำกว่า 78 ดอลลาร์แล้วเมื่อวันศุกร์(15) จากความคาดหมายถึงอุปสงค์น้ำมันทำความร้อนลดลงในสหรัฐฯและดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ขณะที่วอลล์สตรีท ปิดลบอย่างแรงแม้ธนาคารและบริษัทยักษ์เผยผลประกอบการที่น่าพึงพอใจ
ด้วยสภาพอากาศที่เบาบางลงในสัปดาห์นี้ ทำให้คาดหมายว่าการบริโภคเชื้อเพลิงจะลดตามไปด้วย โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ชาติผู้บริโภคพลังงานรายใหญ่ที่สุดในโลก หลังจากอากาศอันหนาวเหน็บได้เล่นงานหลายพื้นที่ของซีกโลกเหนือและช่วยผลักให้ราคาน้ำมันทำยานขึ้นไปเหนือ 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 1.39 ดอลลาร์ ปิดที่ 78.00 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมีนาคม ลดลง 1.46 ดอลลาร์ ปิดที่ 77.11 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ทั้งนี้ราคาน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ ร่วงลงเป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน นับตั้งแต่ก้าวขึ้นไปแตะ 82.75 ดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ก่อน
ด้านวอลล์สตรีทในวันศุกร์(15) ปิดลบแรงที่สุดในรอบปี 2010 หลังนักลงทุนเพิกเฉยต่อรายงานผลประกอบการอันสดใสไตรมาส 4 ของอินเทลและเจพี มอร์แกน เชส
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 100.90 จุด (0.94 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 10,609.65 จุด แนสแดค ลดลง 28.75 จุด (1.24 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,287.99 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 12.43 จุด (1.08 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,136.03 จุด
วอลล์สตรีททรุดตัวลงตั้งแต่เปิดไปจนปิดตลาด แม้ว่ามีรายงานประกอบการในด้านบวกจาก อินเทล บริษัทผู้ผลิตซอฟต์แวร์รายใหญ่ และธนาคารเจพี มอร์แกน เชส เนื่องจากนักลงทุนคาดหมายว่าตัวเลขน่าจะออกมาดีกว่านี้ นักวิเคราะห์ระบุ