เอเอฟพี - โบสถ์คาทอลิกในมาเลเซียว่า สำนักงานกฎหมายของโบสถ์ถูกคนร้ายบุกเข้าโจรกรรม นับเป็นการโจมตีครั้งล่าสุดในข้อพิพาทเรื่องการใช้คำว่า "อัลเลาะห์
บาทหลวงลอว์เรนซ์ แอนดรูว์ บรรณาธิการหนังสือพิมพ์เฮอรัลด์ ของศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิก เผยวันนี้(14)ว่า สำนักงานทนายความที่ว่าความให้โบสถ์ถูกคนร้ายบุกเข้าโจรกรรมในช่วงคืนวันพุธต่อเนื่องเช้าวันนี้ โดยคนร้ายได้รื้อค้นทรัพย์สินกระจุยกระจาย ซึ่งทางโบสถ์เชื่อว่า เหตุร้ายที่เกิดขึ้นเกี่ยวเนื่องกับข้อพิพาทเรื่องการใช้คำว่า "พระอัลเลาะห์" เพื่อสื่อความหมายถึงพระเจ้าในศาสนาคริสต์ เนื่องจากภายในสำนักงานกฎหมายไม่มีเงิน หรือทรัพย์สินมีค่า ทำให้เชื่อว่า เป็นการกระทำเพื่อข่มขู่
ด้านดีเรก เฟอร์นานเดซ ทนายความประจำโบสถ์ กล่าวว่า คนร้ายขโมยคอมพิวเตอร์แลบท็อปไปจากสำนักงานของเขา ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงกัวลาลัมเปอร์ ขณะนี้เขากำลังตรวจสอบว่า มีเอกสารหายไปหรือไม่ พร้อมเผยว่า เหตุครั้งนี้เป็นการกระทำของมืออาชีพ เพราะที่สำนักงานมีการติดตั้งเหล็กดัดแน่นหนา ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจท้องที่ ยืนยันเหตุงัดแงะครั้งนี้ และระว่า เจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ ในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีโบสถ์ชาวคริสต์ 9 แห่งถูกวางเพลิง หรือบุกทำลายทรัพย์สิน ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างศาสนาที่ทวีความรุนแรงขึ้น หลังจากศาลสูงมาเลเซียมีคำตัดสินเมื่อวันที่ 31 ธํนวาคม.ที่ผ่านมาให้ยกเลิกคำสั่งของรัฐบาลที่ห้ามคนต่างศาสนาใช้คำว่าพระอัลเลาะห์ เพื่อสื่อความหมายถึงพระเจ้าในศาสนาของตน
ด้านรัฐบาลมาเลเซียออกมาประณามการโจมตีที่เกิดขึ้นอย่างหนัก อย่างไรก็ตาม ถุกกล่าวหาว่าที่ผ่านมาพยายามปลุกกระแสชาตินิยมเพื่อรักษาฐานเสียงเอาไว้ หลังจากพรรคฝ่ายค้านได้คะนนเสียงจากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งมาก อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน ในการเลือกตั้งปี 2008 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ชาวมาเลเซียร้อยละ 9 จากทั้งหมด 28 ล้านคนเป็นชาวคริสต์ โดยเป็นชาวคาทอลิกราว 850,000 คน ชาวคาทอลิกในมาเลเซียมากกว่าครึ่งมาจากชนเผ่าบนเกาะบอร์เนียว และส่วนใหญ่พูดภาษามาเลย์ซึ่งเป็นภาษประจำชาติ