เอเอฟพี - มาเลเซียเรียกร้องให้สหรัฐฯทบทวนการเตือนภัยนักท่องเที่ยว หลังจากสัปดาห์ที่แล้วสถานทูตสหรัฐฯในกรุงกัวลาลัมเปอร์ประกาศว่า กลุ่มก่อการร้ายและอาชญากรกำลังวางแผนก่อเหตุโจมตีในเขตรัฐซาบาห์ บนเกาะบอร์เนียว รวมถึงบนเกาะสิปาดัน ซึ่งเป็นแหล่งดำน้ำยอดนิยมของโลกด้วย
กระทรวงการต่งประเทศมาเลเซียแถลงวานนี้(17) ว่า ได้เรียกตัวเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ เจมส์ คีธ มารับทราบความกังวลของมาเลเซีย และยืนยันว่า สถานการณ์ความมั่นคงปลอดภัยในรัฐซาบาห์ไม่ได้เป็นอย่างที่สหรัฐฯออกประกาศเตือน กระทรวงการต่างประเทศมาเลเซียยังระบุว่า ประกาศเตือนของสหรัฐฯทำให้เกิดความวิตกกังวล ความสับสน และทำให้บรรดาผู้นำมาเลเซียประหลาดใจ ซึ่งจะนำไปสู่การเข้าใจผิดต่อโลกภานนอกเกี่ยวกับสถาการณ์ความมั่นคงปลอดภัยในรัฐซาบาห์
กระทรวงการต่างประเทศมาเลเซียระบุว่า รัดซี อับดุล เราะห์มัน รองเลขาธิการกระทรวงการต่างประเทศได้เรียกร้องให้เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ "ทบทวนการประกาศเตือนภัย" ดังกล่าวด้วย ขณะที่ยังไม่สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯให้ออกมาให้ความเห็นเรื่องดังกล่าวได้
ทางการมาเลเซียปฏิเสธคำเตือนดังกล่าว โดยระบุว่า ได้เพิ่มมาตรการการรักษาความปลอดภัย รวมถึงการข่าวกรองในรัฐซาบาห์แล้ว นับตั้งแต่มีการลักพาตัวชาวต่างชาติในปี 2000 ขณะก่อนหน้านี้ ชาติอื่นประกาศเตือนพลเรือนของตันว่าอาจมีการก่อกาาร้ายในรัฐแห่งนี้ ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะบอร์เนียว ซึ่งเป็นกั้นแยกมาเลเซียออกจากอินโดนีเซีย
อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯออกประกาศเตือนโดยชี้ชัดให้ชาวอเมริกันหลีกเลี่ยงหรือระมัดระวังตัวอย่างอยิ่งในการเดินทางไปในเมืองเซมโปร์นา เกาะมาบูล และเกาะสิปาดัน ซึ่งล่วนเป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อในรัฐซาบาห์
ทั้งนี้ ในปี 2000 กลุ่มกบฏอาบูไซยาฟได้ก่อเหตุลักพาตัวเหยื่อ 21 ราย ซึ่งรวมถึงชาวต่างชาติ 10 คนไปจากเกาะสิปาดัน โดยกลุ่มกบฏได้ควบคุมตัวพวกเขาไว้บนเกาะโจโลเป็นเวลานานหลายเดือน ขณะที่ในแต่ละปี มีชาวตะวันตกเดินทางมาเยือนรัฐซาบาห์นับพันคน เนื่องจากมีทัศนียภาพอันงดงามและเป็นแหล่งดำน้ำระดับโลก โดยเฉพาะนอกชายฝั่งของเกาะสิปาดันที่ตั้งอยู่ใกล้กับพื้นที่ก่อความไม่สงบทางใต้ของฟิลิปปินส์