เอเอฟพี - ราคาน้ำมันดิบเมื่อวันพฤหัสบดี(7) ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 10 วันตามดอลลาร์ที่แข็งค่า จีนขึ้นอัตราดอกเบี้ยและอุปทานล้นอปุสงค์ ด้านวอลล์สตรีทขยับตัวเล็กน้อยเหตุนักลงทุนเฝ้ารอตัวเลขทางภาคแรงงานจากรัฐบาลสหรัฐฯ
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 52 เซนต์ ปิดที่ 82.66 ดอลลาร์ หลังทำสถิติปิดบวกต่อเนื่อง 10 วันติดต่อวันที่ส่งผลให้ราคาขยับขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2008 ขณะที่เบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 38 เซนต์ ปิดที่ 81.51 ดอลลาร์
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นหลังจากรัฐมนตรีคลังคนใหม่ของญี่ปุ่น นาโอโตะ คัน ประกาศต้องการให้ค่าเงินเยนอ่อนตัวลง ก่อข่าวลือว่ารัฐบาลอาจเข้าแทรกแซงตลาด
ขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันก็ยังปรับลดตามหลังนักลงทุนจับตาสัญญาณแห่งอุปสงค์พลังงานที่กำลังเบาบางลงเรื่อยๆในสหรัฐฯ ชาติผู้บริโภครายใหญ่ที่สุดในโลก แม้ว่าสภาพอากาศอันหนาวเย็นกำลังแผ่ปกคลุมทั่วซีกโลกเหนือก็ตาม
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกเล็กน้อยเมื่อวันพฤหัสบดี(7) ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบาง ตามหลังนักลงทุนเฝ้ารอตัวเลขคนว่างงานและปลดพนักงานภาคนอกการเกษตรเดือนธันวาคม เพื่อประมาณการถึงแนวโน้มการฟื้นตัวจากภาวะถดถอยของเศรษฐกิจ
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 31.97 จุด (0.30 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 10,605.65 จุด แนสแดค ลดลง 1.04 จุด (0.05 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,300.05 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 4.39 จุด (0.39 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,141.53 จุด