ยุโรปกดดันสหรัฐฯให้ความร่วมมือลดก๊าซเรือนกระจกมากขึ้น

เอเอฟพี - ข้อเสนอของสหรัฐฯที่จะลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกยังไม่เพียงพอ เมื่อเทียบกับมาตรการต่างๆของยุโรป สวีเดน ประธานหมุนเวียนสหภาพยุโรปกล่าวเมื่อวันพุธ(9) ก่อนหน้าการประชุมของอียู

"เราคิดว่าเป้าหมายที่ตั้งโดยสหรัฐฯ ไม่สามารถเทียบเคียงได้กับสิ่งที่เราทำในสหภาพยุโรป" นายเฟรเดอริค ไรน์เฟลด์ นายกรัฐมนตรีของสวีเดน ประเทศซึ่งทำหน้าที่ประธานหมุนเวียนสหภาพยุโรปเผย พร้อมระบุต่อว่าเมื่อเป็นดังนั้น ณ เวลานี้ยุโรปจึงไม่อาจให้สัญญาถึงการลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มเติม

ก่อนหน้านี้บรรดาผู้นำชาติต่างๆในยุโรป ให้คำมั่นว่าจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 20 เปอร์เซ็นต์ จากระดับในปี 1990 ภายในปี 2020

สมาชิกสหภาพยุโรป 27 ชาติยังกล่าวต่อว่าพวกเขาอาจลดการปล่อยก๊าซเพิ่มเป็น 30 เปอร์เซ็นต์ หากเห็นถึงความพยายามอย่างเทียบเคียงกันในประเทศพัฒนาแล้วอย่างสหรัฐฯ ออสเตรเลีย แคนาดา ญี่ปุ่นและนอร์เวย์

บางประเทศซึ่งนำโดยอังกฤษ เล็งให้คำมั่นลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงถึง 30 เปอร์เซ็นต์ แต่ชาติอื่นๆ โดยเฉพาะประเทศยากจนในโซนยุโรปตะวันออก อย่างโปแลนด์ ยังสงบเสงี่ยมถ้อยคำในพันธสัญญาต่อสู้กับภาวะโลกร้อนนี้

ข้อมูลของสหภาพยุโรปที่เปิดเผยต่อสาธารณชนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ยืนยันว่าประเทศพัฒนาแล้วที่อยู่นอกอียู ให้พันธสัญญาลดลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เฉลี่ยแล้วเพียง 13 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น

การประชุมสุดยอดสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่มีผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 15,000 คนจาก 192 ประเทศ ที่กรุงโคเปนเฮเกนของเดนมาร์ก ได้เริ่มขึ้นแล้วตั้งแต่วันจันทร์(7)

อย่างไรก็ตาม ไรน์เฟลด์ ยืนยันอย่างชัดเจนว่าที่ประชุมสหภาพยุโรปในบรัสเซลส์ในวันพฤหัสบดี(10) และวันศุกร์(11) นี้ จะไม่มีข้อตกลงลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกครั้งใหญ่ "เรายังต้องการเห็นเป้าหมายที่เพิ่มเติมจากชาติพัฒนาแล้ว ในกรณีนั้นเราถึงจะสามารถเคลื่อนไหวต่อได้" เขาย้ำ

ในเดือนมิถุายน รัฐสภาสหรัฐฯ ผ่านแผนลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 17 เปอร์เซ็นต์ จากระดับในปี 2005 ภายในปี 2005 อย่างไรก็ตาม ส.ส.รีพับลิกัน ที่วิจารณ์ความพยายามต่อสู้กับภาวะโลกร้อนนี้ ประกาศบินมายังที่ประชุม ณ กรุงโคเปนเฮเกน เพื่อหวังลดคำมั่นสัญญาอันแข็งแกร่งของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ลง