เจ้าชายมาเลย์ชนะคดีฟ้องเรียกค่าเสียหายเมียนางแบบกล่าวหาทารุณเยี่ยงทาส

เอเอฟพี - เจ้าชายแห่งมาเลเซีย ชนะคดีหมิ่นประมาท ที่พระองค์ยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายจากพระชายา อดีตนางแบบสาววัยรุ่น และแม่ยายของพระองค์ ซึ่งกล่าวหาว่าพระองค์ทารุณกรรมทางเพศ

โมฮัมหมัด ฮาซิก พิลเลย์ ทนายความส่วนพระองค์ เผยว่า เจ้าชายเติงกู เตเมิงกอง โมฮัมหมัด ฟาครี แห่งรัฐกลันตัน ชนะคดีหมิ่นประมาท หลังจากฝ่ายจำเลย หญิงทั้ง 2 คน ไม่สามารถยื่นข้อแก้ต่างได้

“เจ้าชายทรงมีความสุขอย่างยิ่ง และพระองค์ได้ตรัสว่า ความยุติธรรมย่อมมีชัย เรื่องเงินไม่ได้เป็นปัญหา แต่สิ่งที่พระองค์ต้องการ ก็คือ ให้ชื่อของพระองค์ปราศจากมลทิน” โมฮัมหมัด ฮาซิก กล่าว โดยเสริมว่า ศาลสูงจะประเมินค่าเสียหายในการฟ้องร้องคดีครั้งนี้ ในภายหลัง

เจ้าชายเติงกู ฟาครี ยื่นฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย 105,000 ล้านริงกิต หรือราว 1 ล้านบาทในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยทรงอ้างว่า มาโนฮารา โอเดเลีย ปินอต ภรรยา นางแบบสาวลูกครึ่งอเมริกัน-อินโดนีเซีย และแม่ของเธอ สร้างความเสื่อมเสียต่อของพระองค์ จากคำกล่าวอ้างที่ว่านางแบบสาวถูกพระองค์ทารุณกรรมทางเพศ

ในเดือนพฤษภาคม มาโนฮารา หลบหนีองครักษ์ของเจ้าชายจากโรงแรมแห่งหนึ่งในสิงคโปร์ และกลับสู่อ้อมอกของครอบครัวในอินโดนีเซีย พร้อมเล่าเรื่องการถูกทารุณกรรม ข่มขืน และทรมาน ด้วยน้ำมือของเจ้าชาย พระชนมพรรษา 31 ชันษาพระองค์นี้

ต่อมาเธอแฉกับผู้สื่อข่าวด้วยว่า เธอถูกทารุณเยี่ยงทาสบำเรอกาม หลังแต่งงานในปีที่แล้วกับเจ้าชายเติงกู ฟาครี ซึ่งมีพระบิดาเป็นถึงสุลต่านแห่งรัฐกลันตัน

“ลองนึกภาพดูว่า ถ้าคุณถูกกล่าวหาว่า ฉีดยาภรรยาของตัวเองด้วยฮอร์โมน และกรีดหน้าอกของเธอด้วยใบมีดโกน พวกเธอทำให้เจ้าชายทรงเป็นเหมือนสัตว์ประหลาดในสายตาของสาธารณชน” โมฮัมหมัด ฮาซิก เสริม

ทั้งนี้ มาโนฮารา ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะสาวสังคมในกรุงจาการ์ตา อ้างว่า เธอถูกกรีดด้วยมีดโกน และถูกฉีดยา ซึ่งทำให้เธออาเจียนออกมาเป็นเลือด ในระหว่างที่ถูกกักตัวอยู่ในห้องนอนที่พระราชวัง