ผลตรวจยันนางแบบสาวอินโดฯ ถูกเจ้าชายมาเลย์ทำร้ายเยี่ยงทาสบำเรอกามจริง

เอเอฟพี - ผลตรวจทางการแพทย์ของนางแบบสาวลูกครึ่งอินโด-อเมริกันที่อ้างว่าถูกข่มขืนและทำร้ายร่างกายโดยสามีซึ่งเป็นเจ้าชายมาเลย์ ยืนยันพบว่าเธอถูกทำทารุณกรรมทางร่างกายจริง นักนิติเวชศาสตร์เปิดเผยเมื่อวันอังคาร(9)

มาโนฮารา โอเดเลีย ปีนอต วัย 17 ปี เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา บอกกับผู้สื่อข่าวว่าเธอถูกกระทำเยี่ยงทาสบำเรอกาม หลังอภิเษกสมรสกับ เติงกู เตเมิงกอง โมฮัมมัด ฟาครี เจ้าชายแห่งรัฐกลันตัน ของมาเลเซียเมื่อปีที่แล้ว

เธอหลบหนีองครักษ์ของเจ้าชายจากโรงแรมแห่งหนึ่งในสิงคโปร์ และกลับไปหาครอบครัวของเธอในอินโดนีเซีย พร้อมเล่าเรื่องที่เธอถูกทารุณกรรม ข่มขืน และถูกทรมาน โดยน้ำมือของเจ้าชายมาเลย์ พระชนมายุ 31 ชันษา

“มีรอยแผลถูกเฉือนหลายแห่งในร่างกายของเธอ โดยเฉพาะบริเวณหน้าอก บางส่วนยังเป็นรอยแผลใหม่อยู่เลย” แพทย์นิติเวชอินโดนีเซียรายหนึ่งบอกกับเอเอฟพี “เรายังต้องตรวจตัวอย่างเลือดและปัสสาวะของเธอ เพราะเธอบอกว่าถูกทิ่งแทง” เขาบอกพร้อมระบุว่านอกจากนี้ยังพบรอยเข็มที่หลังของเธอด้วย

มาโนฮาราอ้างว่า เธอถูกมีดโกนเฉือนหลายแห่งบนหน้าอก และฉีดยาเสพติดให้จนเธออาเจียนออกมาเป็นเลือดระหว่างถูกคุมขังอยู่ภายในห้องนอนภายในพระราชวังที่มีการอารักขาอย่างหนาแน่น

เธอบอกหลังจากเข้าตรวจร่างกายเมื่อวันอังคาร(9) ว่า เธอจถูกเจ้าชายฉีดสารชนิดหนึ่งให้ทุกครั้งก่อนมีเพศสัมพันธ์ “ฉันไม่รู้ว่ามันเป็นคืออะไร แต่มันทำให้ฉันขยับตัวไม่ได้ ถึงแม้ฉันยังมองเห็น รู้สึก ได้ยิน ได้กลิ่น...และมีสติ แต่ฉันขยับเขยื้อนไม่ได้” มาโนฮารา ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์วันชาแนล

มาโนฮารา ถูกพาไปสิงคโปร์พร้อมกับราชวงศ์ ในจำนวนนั้นมีพระบิดาของเจ้าชายฟาครี คือ สุลตาน อิสมาอิล เปตรา ชาห์ ที่ 2 ซึ่งเดินทางไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง และที่สิงคโปร์นี้เอง ด้วยความช่วยเหลือของตำรวจแดนลอดช่องนางแบบสาวสามารถหลบหนีองครักษ์ของเจ้าชายกลับจาการ์ตา

“ผลตรวจร่างกายเสร็จสมบูรณ์ และผลตรวจยืนยันว่ามีการทำทารุณทั่วร่างกายของเธอ เรื่องของเธอได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นความจริง” ทนายความของเธอบอกกับเอเอฟพี

เขากล่าวว่า เมื่อวันอังคาร(9) ลูกความของเขาได้ยื่นแจ้งความอย่างเป็นทางการในข้อหาทารุณกรรมต่อตำรวจอินโดนีเซียแล้ว และนอกจากเจ้าชายแล้ว ยังมีอีก 6 คนที่ถูกกล่าวหาในจำนวนนั้นรวมไปถึงสุลต่านและพระชายาของพระองค์ด้วยในฐานะสมคบคิด

“เราได้รับรายงานแล้ว” โฆษกตำรวจแห่งชาติระบุ “ตำรวจอินโดนีเซียไม่สามารถเข้าสืบสวนคดีนี้ เนื่องจากข้อกล่าวหาทำทารุณกรรมเกิดขึ้นในมาเลเซียซึ่งอยู่นอกเหนืออำนาจของเรา แต่เราจะคอยให้ความช่วยเหลือเรื่องนี้แก่ตำรวจมาเลเซีย” เขากล่าว