เอเอฟพี – สำนักพระราชวังมาเลเซีย ชี้ คดีนางแบบสาวลูกครึ่งอินโด-อเมริกัน ถูกข่มขืน และกระทำทารุณกรรม โดยสามี ซึ่งเป็นเจ้าชายมาเลย์นั้น เป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างคนสองคน
มาโนฮารา โอเดเลีย ปีนอต วัย 17 ปี แฉกับผู้สื่อข่าวในวันจันทร์ (1) ที่ผ่านมา ว่า เธอถูกกระทำเยี่ยงทาสบำเรอกาม หลังอภิเษกสมรสกับ เติงกู เตเมิงกอง โมฮัมมัด ฟาครี เจ้าชายแห่งรัฐกลันตัน ของมาเลเซียเมื่อปีที่แล้ว
เธอหลบหนีองครักษ์ของเจ้าชายจากโรงแรมแห่งหนึ่งในสิงคโปร์ และกลับไปหาครอบครัวของเธอในอินโดนีเซีย พร้อมเล่าเรื่องที่เธอถูกทารุณกรรม ข่มขืน และถูกทรมาน โดยน้ำมือของเจ้าชายมาเลย์
อับดุล ฮาลิม ฮาหมัด ผู้ประสานงานสำนักพระราชวัง เผยว่า เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังรัฐกลันตัน จับตา และศึกษาประเด็นนี้มาจนกระทั่งพิจารณาแล้วว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของสามีภรรยา ซึ่งจำเป็นต้องสะสางด้วยกฎหมาย ในการแสดงความเห็นเป็นครั้งแรก
อับดุล ฮาลิม ยังเสริมในแถลงการณ์เมื่อวันพุธ (3) ที่ผ่านมาด้วยว่า คำพูดใดๆ ของ โมฮาหมัด โซเบอรี ชาฟลี พระสหายของเจ้าชาย เป็นเพียงมุมมองส่วนตัวของเขาเท่านั้น
โซเบอรี เผยว่า อดีตนางแบบสาวได้รับอนุญาตให้กลับบ้านไปได้ด้วยความสมัครใจ และกล่าวตำหนิแม่ของเธอที่ชักจูงให้เธอกุเรื่องใส่ร้ายเจ้าชาย
ด้าน เดซี ฟาจารีนา แม่ของนางแบบสาวรายนี้ ระบุว่า เธอจะแจ้งความดำเนินคดีต่อเจ้าชาย ซึ่งมีพระชนมายุ 31 ชันษาพระองค์นี้ พร้อมกับตำหนิรัฐบาลมาเลเซีย และอินโดนีเซีย ที่พยายามปกปิดเรื่องอื้อฉาวดังกล่าว
ยิ่งไปกว่านั้น นางแบบสาว ซึ่งได้รับบาดแผลถูกมีดโกนเฉือนหลายแห่งบนหน้าอก ยังเผยว่า เธอจะถูกทรมาน หากเธอไม่ทำตัวมีความสุขเมื่อออกงานสังคมกับเจ้าชายฟาครี
เธอระบุว่า เธอแอบแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ของสิงคโปร์ และขอความช่วยเหลือ หลังจากถูกพาไปสิงคโปร์พร้อมกับราชวงศ์ ซึ่งมีทั้งพระบิดาของเจ้าชายฟาครี สุลตาน อิสมาอิล เปตรา ชาห์ ที่ 2 เพื่อรักษาตัว
ทั้งนี้ กฎหมายของมาเลเซียเคยคุ้มครองเชื้อพระวงศ์จากการถูกดำเนินคดีทางแพ่ง และอาญา ทว่า อภิสิทธิ์ดังกล่าวถูกยกเลิกไปในปี 1993
ส่วน ยูริ ดาร์มาส ทนายความของมาโนฮารานั้น ระบุว่า ลูกความของเขาจะเข้ารับการตรวจร่างการ เพื่อสนับสนุนข้อกล่าวหาของเธอ โดยเสริมว่า เขาตั้งใจจะยื่นฟ้องเจ้าชายมาเลย์ทั้งทางแพ่ง และอาญาด้วย
นอกจานี้ แม่ของนางแบบสาว ระบุว่า มาโนฮารา ยื่นฟ้องหย่าเรียบร้อยแล้ว