เอเอฟพี – เจ้าชายมาเลเซีย ทรงปฏิเสธข้อหาข่มขืน ทารุณกรรมภรรยา นางแบบสาวลูกครึ่งอเมริกัน-อินโดนีเซีย พร้อมข่มขู่จะดำเนินคดีตามกฎหมายกับเธอ โทษฐานกล่าวความเท็จ
เติงกู เตเมิงกอง โมฮัมมัด ฟาครี เจ้าชายแห่งรัฐกลันตัน ของมาเลเซีย ทรงเข้าแจ้งความกับตำรวจมาเลเซีย ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ วันพฤหัสบดี (11) ที่ผ่านมา โดยทรงปฏิเสธว่าไม่ได้ข่มขืน และทรมานภรรยา วัย 17 ปี แต่อย่างใด ฮาซิก พิลเลย์ ทนายความของพระองค์เผยกับสำนักข่าวเบอร์นามา
พิลเลย์ ระบุว่า เขา และลูกความกำลังพิจารณาดำเนินคดีในข้อหากล่าวโทษอย่างผิดๆ กับนางแบบสาวลูกครึ่งรายนี้ด้วย
มาโนฮารา โอเดเลีย ปีนอต ออกมาแฉกับนักข่าวในสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า เธอถูกทารุณเยี่ยงทาสบำเรอกาม หลังแต่งงานกับ เติงกู ฟาครี ซึ่งพระบิดาของพระองค์เป็นถึงสุลตานแห่งรัฐกลันตัน ในปีที่แล้ว
เธอหลบหนีองครักษ์ของเจ้าชายจากโรงแรมแห่งหนึ่งในสิงคโปร์ และกลับสู่อ้อมอกของครอบครัวในอินโดนีเซีย พร้อมเล่าเรื่องการถูกทารุณกรรม ข่มขืน และทรมาน ด้วยน้ำมือของเจ้าชาย พระชนมพรรษา 31 ชันษาพระองค์นี้
ด้าน ซุลคาร์นาอิน อับดุล เราะห์มาน หัวหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำเขต ยืนยันว่า ได้รับแจ้งความจากเจ้าชายจริง โดยจะโอนการสอบสวนคดีต่อให้สถานีตำรวจในรัฐกลันตันต่อไป เนื่องจากเหตุการณ์ตามข้อกล่าวหาเกิดขึ้นในรัฐดังกล่าว และควรอยู่ในขอบเขตความรับผิดชอบของศาลที่นั่นด้วย
มาโนฮารา ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะสาวสังคมในกรุงจาการ์ตา อ้างว่า เธอถูกกรีดด้วยมีดโกน และถูกฉีดยา ซึ่งทำให้เธออาเจียนออกมาเป็นเลือด ในระหว่างที่ถูกกักตัวอยู่ในห้องนอนที่พระราชวัง
ขณะที่ ทนายความของเธอ ระบุว่า เธอได้แจ้งความว่าถูกทารุณกรรมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอินโดนีเซียแล้ว แต่พวกเขาไม่สามารถดำเนินการสอบสวนได้ เนื่องจากสถานที่เกิดเหตุอยู่นอกเขตอำนาจของศาล
ทั้งนี้ ในวันอังคาร (9) ที่ผ่านมา ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชของอินโดนีเซีย ชี้ว่า มาโนฮาราถูกกระทำทางรุณกรรมทางร่างกายจริง