อดีตผู้นำขี้ฉ้อ “เอสตราดา” ประกาศลงชิงตำแหน่ง ปธน.ปินส์ อีกครั้ง

เอเอฟพี - โจเซฟ เอสตราดา อดีตประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ที่ถูกปฏิวัติโค่นอำนาจเมื่อปี 2001 และเคยถูกตัดสินจำคุกข้อหาโกงกินประเทศชาติ ประกาศวันนี้ (14) ว่า เขาจะลงชิงตำแหน่งผู้นำฟิลิปปินส์อีกครั้งในการเลือกตั้งปีหน้า

“ใช่ ผมจะลงชิง” เอสตราดา วัย 72 ปี ยืนยันการตัดสินใจกับสื่อมวลชน “ผมจะไม่ลงชิงประธานาธิบดีถ้าผมไม่มั่นใใจว่าจะชนะ”

เอสตราดา อดีตพระเอกหนังแอกชัน กล่าวว่า เขาจะประกาศลงชิงตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันพุธหน้า และได้ตัดสินใจเลือก เคโคมาร์ บีไนย์ นายกเทศมนตรีผู้โด่งดังของเขตมากาตี ย่านการเงินสำคัญในกรุงมะนิลามา มาเป็นคู่ชิงรองประธานาธิบดีกับเขา

เขตตอนโนในกรุงมะนิลา เป็นฉากในหนังของเขาหลายเรื่อง และหนังเหล่านี้ก็ทำให้เขาได้รับความนิยมทั่วประเทศจากบทบาทชายที่ปกป้องคนยากคนจน และคนที่ถูกกดขี่

เอสตราดา เป็นตัวแทนจากกลุ่มฝ่ายค้านยูไนเต็ดออฟโพสิชัน ซึ่งประกอบขึ้นจากพรรคอันทรงอิทธิพล 2 พรรค ที่วิจารณ์รัฐบาลของประธานาธิบดี กลอเรีย อาร์โรโย อย่างหนัก อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้ประกาศลงชิงการเลือกตั้งในเดืนพฤษภาคมปีหน้าอีก 2 คนจากฝ่ายค้าน ซึ่งก็คือ เบนิโญ อาควิโน บุตรชายของนางคอราซอน อาควิโน ผู้นำประชาธิไตยผู้ล่วงลับ และ มันนี วิลยาร์ มหาเศรษฐีพันล้านและเป็นนักธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ขณะที่ คิลแบร์โต เตโอโดโร รัฐมนตรีกลาโหม จะเป็นตัวแทนพรรครัฐบาลของอาร์โรโย

เอสตราดา ระบุว่า เขามีประสบการณ์ โดยไต่เต้ามาจากนายกเทศมนตรี ไปเป็นวุฒิสมาชิก และรองประธานาธิบดี ก่อนจะได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลายในการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งที่ 13 ของฟิลิปปินส์ในปี 1998

อย่างไรก็ตาม เขาถูกโค่นอำนาจการการปฏิวัติอันลือชื่อของประชาชนที่ทหารสนับสนุนในปี 2001 เนื่องจากคอร์รัปชัน และกอบโกยความมั่งคั่งจากการรับสินบนและฉ้อราษฎร์บังหลวงมูลค่าประมาณอีก 80 ล้านดอลลาร์

และในปี 2007 เอสตราดา ถูกตัดสินจำคุกจากความคดีรับสินบนครั้งมโหฬาร แต่ประธานาธิบดี อาร์โรโย ซึ่งเคยมีบทบาทสำคัญในการขับไล่เขาระหว่างที่เธอยังเป็นรองประธานาธิบดีของเขาเอง ประกาศนิรโทษกรรมให้แก่เอสตราดา ในอีก 6 สัปดาห์ต่อมา

ทั้งนี้ ผลการสำรวจความเห็นของชาวฟิลิปปินส์ พบว่า วุฒิสมาชิก เบนิโญ มีคะแนนนำในบรรดาผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี โดยผลการสำรวจ พบว่า ประชาชนร้อยละ 60 ให้ความนิยม เบนิโญ ขณะที่วุฒิสมาชิก วิลยาร์ ซึ่งเคยมีคะแนนนำก่อนที่ เบนิโญ จะประกาศตัวลงสมัคร ตามมาเป็นอันดับ 2 ด้วยคะแนนนิยมร้อยละ 37

อันดับ 3 คือ อดีตประธานาธิบดี เอสตราดา ได้รับความนิยมร้อยละ 18 วุฒิสมาชิก ฟรานซิส เอสคูเดโร ร้อยละ 15 และ คิลแเบร์โต ด้คะแนนนิยมรั้งท้ายคือ ร้อยละ 4