เอเอฟพี - ราคาน้ำมันตลาดสหรัฐฯ ขยับขึ้นเล็กน้อยเมื่อวันจันทร์ (5) หลังมีข้อมูลบ่งชี้ถึงการเติบโตทางภาคบริการมะกันในเดือนมิถุนายน นับเป็นครั้งแรกในรอบปี สัญญาณที่ก่อความหวังต่อการพื้นตัวทางเศรษฐกิจของชาติผู้บริโภคพลังงานรายใหญ่ที่สุดในโลก ขณะที่วอลล์สตรีท ปิดบวกอย่างแข็งแกร่ง หลังมีมุมมองที่สดใสต่อภาคธนาคาร
น้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 46 เซนต์ ปิดที่ 70.41 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 3 เซนต์ ปิดที่ 68.04 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันขยับขึ้นหลังจากผลสำรวจดัชนีการซื้อสินค้าพบว่าภาคบริการของสหรัฐฯ เติบโตขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบปี เติมความหวังของการฟื้นตัวจากภาวะถดถอยอันยืดเยื้อยาวนานของเศรษฐกิจ
ผลสำรวจของสถาบันสถาบันบริหารอุปทาน ชี้ว่า ดัชนีนอกภาคอุตสาหกรรม ในเดือนกันยายน เพิ่มขึ้นเป็น 50.9 เปอร์เซ็นต์ จาก 48.4 เปอร์เซ็นต์ ในเดือนสิงหาคม ทั้งนี้ตัวเลขใดๆที่อยู่เหนือระดับ 50 เปอร์เซ็นต์นั้น บ่งชี้ถึงการเติบโต
ด้านวอลล์สตรีทปิดบวกเป็นครั้งแรกในรอบ 4 วันเมื่อวันจันทร์ (5) โดยนอกจากข้อมูลอันสดใสของภาคบริการแล้ว ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากมุมมองทางเศรษฐกิจที่สดใสของ “โกลด์แมน แซคส์” ที่ขยับเกรดภาคธนาคารสหรัฐฯ ขึ้นสู่ระดับเป็นที่ดึงดูดใจ
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 112.08 จุด (1.18 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 9,599.75 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 20.04 จุด (0.98 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,068.15 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 15.23 จุด (1.49 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,040.44 จุด
ตลาดปิดการซื้อขายด้วยการแกว่งตัวลงไปอยู่ในแดนลบต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับอัตราคนว่างงานภายในสหรัฐฯ ที่อาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม ตลาดสามารถทะยานกลับขึ้นมาปิดในแดนบวกได้อย่างแรง หลังได้รับข่าวดีจากดัชนีนอกภาคอุตสาหกรรมที่บ่งชี้ถึงการเติบโตเป็นครั้งแรกในรอบปี รวมถึงกรณีที่ โกลด์แมน แซคส์ ขยับเกรดภาคธนาคารขนาดใหญ่ของสหรัฐฯจากระดับปานกลางสู่ขั้นน่าดึงดูดใจ ซึ่งช่วยจุดประกายแรงเข้าซื้อของนักลงทุน