ชาวมะนิลาโล่ง! "ป้าหม่า"อ่อนกำลัง-เปลี่ยนทิศทาง

บลูมเบิร์ก - สำนักงานอุตุนิยมวิทยาฟิลิปปินส์รายงานว่า พายุไต้ฝุ่นป้าหม่าได้อ่อนกำลังลงเล็กน้อยและเปลี่ยนทิศทางเมื่อคืนนี้ ทำให้ชาวกรุงมะนิลาและพื้นที่โดยรอบคลายความวิตกกังวล อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ก็ได้เตรียมรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ทางเหนือที่พายุลูกนี้จะพาดผ่าน ก่อนจะมุ่งหน้าไปใต้หวัน

ไต้ฝุ่นป้าหม่า หันเหทิศทางตรงไปที่ตอนเหนือสุดของเกาะลูซอน และคาดว่าจะขึ้นฝั่งในเย็นวันนี้ (3) ที่จังหวัดคากายัน ห่างจากกรุงมะนิลาไปทางเหนือประมาณ 370 กิโลเมตร ล่าสุด ไต้ฝุ่นลูกนี้มีความเร็วลมสูงสุด 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อเวลา 04.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งลดลงจาก 222 กิโลเมตร

คลิกอ่าน--การจัดระดับพายุเฮอร์ริเคน
คลิกอ่าน--พายุไต้ฝุ่น-ดีเปรสชัน-เฮอริเคน

เจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์ กล่าวว่า การหันเหทิศทางของพายุป้าหม่าทำให้คลายความวิตกว่าจะซ้ำเติมผู้ประสบภัยจากพายุกิสนาที่กรุงมะนิลาและบริเวณโดยรอบ ซึ่งล่าสุดมีชาวบ้านอีกกว่า 400,000 คน ยังอยู่ที่ศูนย์หลบภัยและพื้นที่บางส่วนยังจมอยู่ใต้น้ำ

อย่างไรก็ตาม ขณะที่ประธานาธิบีดกลอเรีย อาร์โรโย ประกาศสถานะการณ์ "ภัยพิบัติแห่งชาติ"และสั่งอพยพคน 33,000 ในพื้นที่ที่คาดว่าพายุจะพาดผ่านล้างผลาญทำลาย ขณะที่กองทัพเรือสหรัฐฯ ได้ส่งเรือ 2 ลำซึ่งบรรทุกเวชภัณฑ์และมีนาวิกโยธินหลายร้อนคนไปยังพื้นที่ชายฝั่งของกรุงมะนิลาแล้ว เพื่อเตรียมความพร้อมใว้ก่อน

ด้านรามอน เรเยส รองนายกเทศมนตรีจังหวัดอิซาเบล่า ทางใต้ของคากายัน ซึ่งคาดว่าจะได้นับผลกระทบจากพายุลูกนี้ได้เผยว่า เจ้าหน้าที่ได้เตรียมรถบรรทุกที่ประกอบด้วยข้าวสารและอาหารแห้ง เรือยาง เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการกู้ภัยไว้แล้ว ขณะที่เกษตรกรพยายามเก็บผลผลิตให้พ้นจากน้ำที่อาจจะท่วมได้

ด้านทางการไต้หวันได้ประกาศเตือนให้ประชาชนเตรียมรับมือพายุไต้ฝุ่นป้าหม่าที่กำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่เกาะไต้หวัน หลังสำนักงานอุตุนิยมวิทยาคาดว่า อิทธิพลของพายุป้าหม่าจะทำให้เกิดกระแสลมแรงและฝนตกทั่วเกาะในสุดสัปดาห์นี้

สถานีโทรทัศน์ทีวีบีเอสรายงานว่า ประชาชนใน 6 หมู่บ้านในเขตเกาสง ทางตอนใต้ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากพายุไต้ฝุ่นมรกต ที่คร่าชีวิตผู้คนกว่า 600 คน เมื่อไม่ถึง 2 เดือนที่ผ่านมา ได้เริ่มอพยพออกจากบ้านเรือนแล้วในวันนี้

ทั้งนี้ พายุไต้ฝุ่นมรกตนับเป็นพายุไต้ฝุ่นลูกที่รุนแรงที่สุดที่พัดกระหน่ำไต้หวันในรอบ 50 ปี ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 619 คน และก่อให้เกิดน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้างเมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ขณะที่ทางการได้หวันถูกวิจารณ์อย่างหนักว่าให้ความช่วยเหลือล่าช้าและไมีมีประสิทธิภาพ