เอเอฟพี - ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นได้อีกครั้งในวันพฤหัสบดี(28) จากลดลง 2 วันติด หลังได้แรงหนุนดอลลาร์ที่อ่อนค่าในช่วงท้ายของการซื้อขาย ขณะที่วอลล์สตรีทก็ฟื้นตัวกลับมาปิดในแดนบวกเช่นกัน ตามข้อมูลที่ชี้ว่าเศรษกิจมะกันอยู่ในเส้นทางหลุดพ้นภาวะถดถอยและตลาดแรงงานที่ดีขึ้น
น้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 1.06 ดอลลาร์ ปิดที่ 72.49 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่เบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 86 เซนต์ ปิดที่ 72.51 ดอลลาร์
"ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์ก แกว่งตัวอยู่ในแดนลบตลอดทั้งวัน แต่กลับมาแข็งแกร่งได้ ส่วนหนึ่งมาจากตลาดหุ้นและอีกส่วนมาจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง" ฟิล ฟีน นักวิเคราะก์จากพีเอฟจี เบสต์ รีเสิร์ซ ระบุ
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันพฤหัสบดี(27) กลับมาปิดในแดนบวกได้สำเร็จ หลังมีข้อมูลแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจอันดับ 1 ของโลกยังคงอยู่บนเส้นทางของการฟื้นตัวจากภาวะถดถอย รวมไปถึงปัจจัยบวกจากตลาดแรงงานที่ดีขึ้นเล็กน้อย
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 37.11 จุด (0.39 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 9,580.63 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 3.30 จุด (0.16 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,027.73 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 2.86 จุด (0.28 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,030.98 จุด
ก่อนตลาดเปิด กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯรายงานว่าในช่วงไตรมาส 2 ผลผลิตมวลรวมภายในประเทศหดตัวลง 1.0 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมายไว้ว่าเศรษฐกิจอันดับ 1 ของโลกจะหดตัวราว 1.5 เปอร์เซ็นต์
ขณะเดียวกันตลาดยังได้ปัจจัยบวกเพิ่มเติมจากรายงานของกระทรวงแรงงานที่ระบุว่ามีผู้เข้ารับสิทธิประโยชน์ว่างงานลดลงเหลือ 570,000 รายในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 22 สิงหาคม หลังจากหนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้านี้มีผู้ขอเข้ารับสิทธิประโยชน์ 580,000 ราย