xs
xsm
sm
md
lg

UBS ยอมให้ชื่อลูกค้าแก่ US

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รัฐบาลสวิสตกลงกับรัฐบาลสหรัฐฯในวันพุธ(19)  ยินยอมให้ธนาคารยูบีเอส เปิดเผยรายชื่อชาวอเมริกันมั่งคั่งราว 4,450 รายที่เปิดบัญชีออฟชอร์อยู่กับแบงก์ใหญ่ที่สุดของแดนนาฬิกา
เอเอฟพี/รอยเตอร์/ไฟแนนเชียลไทมส์ - สหรัฐฯทะลวงเปิดช่องเบ้อเริ่มในนโยบายรักษาความลับลูกค้า ที่สร้างชื่อโด่งดังให้แก่อุตสาหกรรมธนาคารสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อรัฐบาลสวิสตกลงกับรัฐบาลสหรัฐฯในวันพุธ(19) ยินยอมให้ธนาคารยูบีเอส เปิดเผยรายชื่อชาวอเมริกันมั่งคั่งราว 4,450 รายที่เปิดบัญชีออฟชอร์อยู่กับแบงก์ใหญ่ที่สุดของแดนนาฬิกาแห่งนี้

ธนาคารยูบีเอส รัฐบาลสหรัฐฯ และรัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ ลงนามในข้อตกลงหลายฉบับในวันพุธ เป็นการยุติช่วงเวลาหลายเดือนแห่งการเจรจาทางการทูตอันละเอียดอ่อน สืบเนื่องจากสหรัฐฯดำเนินการสอบสวนหาตัวคนอเมริกันที่หนีภาษีด้วยการไปเปิดบัญชีลับกับยูบีเอส

ตามข้อตกลงดังกล่าวเหล่านี้ ยูบีเอสจะให้ข้อมูลรายชื่อลูกค้าของธนาคารที่เป็นชาวอเมริกัน 4,450 ราย ซึ่งทางการสหรัฐฯ สงสัยว่าหลบเลี่ยงภาษี ด้วยการนำสินทรัพย์ไปฝากไว้กับแบงก์แห่งนี้ในรูปของการเปิดบัญชีในต่างแดน ทั้งนี้รัฐบาลอเมริกันประมาณการว่าสินทรัพย์ที่ซ่อนเร้นเหล่านี้น่าจะมีมูลค่ามากกว่า 18,000 ล้านดอลลาร์

กระทรวงการคลังสวิสแถลงว่า จากการทำความตกลงกันนอกศาลได้สำเร็จคราวนี้ จะ "มีส่วนสนับสนุนอย่างสำคัญต่อการธำรงรักษาและส่งเสริมความมั่นใจในธนาคารแห่งนี้ และจะช่วยให้ธนาคารสามารถดำเนินการปรับโครงสร้างและฟื้นฟูกิจการได้สะดวกยิ่งขึ้น"

ขณะที่ยูบีเอสก็ระบุว่า จะให้คำแนะนำกับลูกค้าสหรัฐฯ ว่าพวกเขายังสามารถจะยื่นเรื่องอุทธรณ์คำฟ้องของรัฐบาลสหรัฐฯ ต่อศาลสวิสได้เช่นกัน แต่ยูบีเอสจะสนับสนุนให้ลูกค้าเหล่านี้ใช้ประโยชน์จากโครงการเปิดเผยข้อมูลโดยสมัครใจของสำนักงานสรรพากรสหรัฐฯ "หากเห็นว่ามีความเหมาะสม"

โครงการโดยสมัครใจดังกล่าว ซึ่งกำหนดเส้นตายถึงวันที่ 23 กันยายน ผู้ยอมเข้าโครงการจะได้ลดหย่อนในการชำระภาษีที่หลีกเลี่ยงตลอดจนค่าปรับที่จะเกิดขึ้น

ทางด้านสำนักงานสรรพากรสหรัฐฯเตือนว่าพลเมืองอเมริกันที่หนีภาษีโดยแอบเปิดบัญชีไว้กับยูบีเอส ควรที่จะเผยตัวเข้าโครงการสมัครใจกันตั้งแต่บัดนี้ เพราะหากทางการสหรัฐฯได้รับรายชื่อจากทางการสวิส การต่อรองใดๆ ก็เป็นอันยุติ และผู้ที่หนีภาษีในลักษณะนี้นอกจากมีโทษปรับแล้ว ยังอาจถูกดำเนินคดีทางอาญาด้วย

การประนีประนอมยอมความกันคราวนี้ ก็เพื่อยุติการดำเนินคดีทางแพ่งซึ่งทางการสหรัฐฯยื่นฟ้องร้องยูบีเอสในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ โดยกล่าวหาว่าธนาคารแห่งนี้กระทำการละเมิดกฎหมายสหรัฐฯ "ด้วยความจงใจและอย่างเป็นระบบ" จากการส่งเสริมให้พลเมืองอเมริกันเปิดบัญชีนอกประเทศ ดังนั้นจึงเรียกร้องให้ธนาคารส่งมอบรายชื่อของชาวอเมริกันผู้ถือบัญชีธนาคารทั้งหมดราว 52,000
รายให้กับสหรัฐฯ

คดีแพ่งดังกล่าวนี้ก็เป็นผลสืบเนื่องมาจากคดีอาญาอีกคดีหนึ่งที่ทางการสหรัฐฯ ฟ้องยูบีเอส ว่ากระทำผิดในเรื่องภาษีด้วยการชักชวนลูกค้าชาวอเมริกันให้เปิดบัญชีในสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อจะได้ไม่ต้องแจ้งรายได้สำหรับประเมินภาษีในสหรัฐฯ

ในคดีอาญาดังกล่าว ยูบีเอสกับทางการสหรัฐฯก็ทำการประนอมยอมความนอกศาล โดยที่ยูบีเอสยอมรับสารภาพและยินยอมจ่ายเงินค่าเสียหาย 780 ล้านดอลลาร์ รวมทั้งเปิดเผยรายชื่อลูกค้าสหรัฐฯ ราว 300 ราย

สวิตเซอร์แลนด์มีชื่อมานานในเรื่องอุตสาหกรรมธนาคารซึ่งเน้นการรักษาความลับของลูกค้า โดยตามกฎหมายของประเทศนี้ จะห้ามธนาคารต่างๆ เปิดเผยข้อมูลของลูกค้าแก่ทางการหรือบุคคลที่สาม ยกเว้นในกรณีที่เกี่ยวข้องกับการสืบสวนคดีอาญาที่มีการรับรองเท่านั้น

ด้วยเหตุนี้เอง เมื่อทางการสวิสและยูบีเอสยินยอมถึงขนาดนี้ ทางการสหรัฐฯจึงบอกว่า ข้อตกลงครั้งนี้จะเปิดเผยข้อมูล "อย่างชนิดไม่เคยปรากฏมาก่อน" เกี่ยวกับชาวอเมริกันที่อาจเป็นผู้หลบเลี่ยงภาษี ถึงแม้รัฐบาลสวิสเองจะพยายามบอกว่า กฎหมายต่างๆ ของประเทศตน รวมไปถึงกฎหมายการรักษาความลับลูกค้าของธนาคาร ยังไม่ได้ถูกละเมิดแต่อย่างใด

ดั๊ก ชุลมัน ผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานสรรพากรสหรัฐฯ ชี้ว่า ข้อตกลงคราวนี้ไม่ใช่เป็นเพียงรูกุญแจที่จะไขเข้าสู่โลกแห่งความลับธนาคารซึ่งถูกปกปิดกันเอาไว้เท่านั้น แต่เป็นความคืบหน้าก้าวใหญ่ในความพยายามของสำนักงานสรรพากรที่จะทะลุทะลวงม่านกำบังในเรื่องการรักษาความลับของธนาคาร และการต่อสู้กับการหลบเลี่ยงภาษีในต่างประเทศ จึงนับเป็นพัฒนาการครั้งประวัติศาสตร์ของความพยายามในระดับระหว่างประเทศ และจะช่วยสร้างรากฐานอันแข็งแกร่งให้กับการแก้ไขประเด็นปัญหาในต่างประเทศต่อไปในอนาคต

สำนักงานสรรพากรและกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯยังออกคำแถลงร่วมที่ชี้ว่า ก่อนหน้านี้ รัฐบาลสวิสได้ตกลงที่จะทบทวนและดำเนินการตามคำร้องต่างๆ เพื่อให้เปิดเผยข้อมูลบัญชีลูกค้าของธนาคารอื่นๆ และดังนั้น คำร้องประเภทนี้ในอนาคตก็จะได้อิงอาศัยแบบแผนของข้อเท็จริงและเงื่อนไขแวดล้อมอันเทียบเคียงได้กับในกรณีของยูบีเอส

ไม่เพียงเท่านั้น ชุลมันกล่าวในการแถลงข่าวเมื่อวันพุธว่า สำนักงานสรรพากรมุ่งมั่นที่จะติดตามไล่ล่าทั้งสถาบันอื่นๆ ที่มีส่วนร่วมในการช่วยชาวอเมริกันหนีภาษี

พวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯไม่ได้ระบุชื่อธนาคารต่างชาติอื่นๆ ที่อาจถูกสอบสวนในเวลาต่อจากนี้ไป แต่คาดหมายกันว่าสำนักงานสรรพากรจะใช้ข้อตกลงกับสวิสนี้เป็นแม่แบบในการดำเนินการสอบสวนฟ้องร้องดำเนินคดี

ไม่กี่ชั่วโมงหลังการประกาศข้อตกลงเหล่านี้ รัฐบาลสวิสก็แถลงว่า กำลังขายหุ้นราว 9 เปอร์เซ็นต์ของยูบีเอสที่ทางการถืออยู่ โดยที่มีรายงานในเวลาต่อมาว่าขายได้ในราคาสูงสุดของแถบราคาที่ตั้งไว้ และตลาดก็มีความพอใจในเรื่องนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น