เอเอฟพี - องค์การอนามัยโลกเผยเมื่อวันอังคาร(18) ประเทศในแถบซีกโลกเหนือได้สั่งซื้อวัคซีนต้านไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 มากกว่าพันล้านโดส ก่อความต่ออุปสงค์วัคซีนที่อาจไม่เพียงพอ
ด้วยอุปสงค์ที่รุนแรงประกอบกับการผลิตที่ล่าช้าอาจก่อความขาดแคลนและกดดันรัฐบาลประเทศต่างๆ ที่กำลังเตรียมการรับมือการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ระลอกสองที่อาจรุนแรงกว่าเดิม ประสบปัญหาในการตัดใจเลือกกลุ่มบุคคลที่ควรได้รับวัคซีนเป็นอันดับแรก
“คำสั่งซื้อวัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ของประเทศในแถบซีกโลกเหนือ เกินกว่าพันล้านโดสแล้ว” เมลินา เฮนรี โฆษกองค์การอนามัยโลกระบุ “ช่วงต้นอุปทานวัคซีนจะมีอย่างจำกัดมาก และจะไม่เพียงพอต่อประชากรทั้งหมดหรือแม้แต่ประเทศที่มีสัดส่วนประชากรขนาดใหญ่ก็ตาม”
บางประเทศ โดยเฉพาะกรีซ เนเธอร์แลนด์ แคนาดา และอิสราเอล ได้สั่งซื้อวัคซีนมากกว่าจำนวนประชากรของพวกเขา 2 เท่า ขณะที่ชาติอื่นๆ อย่าง เยอรมนี สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และฝรั่งเศส มีคำสั่งซื้อครอบคลุมระหว่าง 30 ถึง 78 เปอร์เซ็นต์
ในเดือนกรกฎาคม องค์การอนามัยโลกยืนยันว่า บริษัทยา 25 แห่งได้แจ้งถึงความตั้งใจว่าจะผลิตวัคซีนให้ได้มากกว่า 94 ล้านโดสต่อสัปดาห์ ณ ช่วงเริ่มต้นกลางเดือนตุลาคม
อย่างไรก็ตาม องค์การอนามัยโลกได้ปรับลดตัวเลขลงอย่างรุนแรงเมื่อบริษัทผู้ผลิตวัคซีนชั้นแนวหน้า 6 แห่ง รายงานว่าเชื้อไวรัสที่พวกเขาใช้ในกระบวนการผลิตไม่อาจแพร่พันธุ์ได้รวดเร็วอย่างที่คาดหมายไว้แต่แรก
“ไวรัสที่มีอยู่ในปัจจุบันสามารถผลิตวัคซีนได้เพียง 25 ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนที่คาดหมายไว้ดั้งเดิม และคาดว่าจะสามารถผลิตวัคซีนได้เพียง 23 ล้านโดสต่อสัปดาห์เท่านั้น” โฆษกองค์การอนามัยโลกระบุ นอกจากนี้ยังมีคำถามสำคัญอีกว่าจะต้องใช้วัคซีนกี่โดสถึงจะรักษาผู้ป่วยแต่ละรายจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่2009ได้
แม้ ซิโนแว็ก ไบโอเทค บริษัทผู้ผลิตยายักษ์ใหญ่ของจีน จะแถลงเมื่อวันอังคาร(18) ว่าพวกเขาเสร็จสิ้นการทดลองทางคลินิกที่แสดงผลว่าวัคซีนตัวใหม่ “ก่อให้เกิดภูมิต้านทานของโรคที่ดีหลังจากใช้วัคซีน 1 โดส” ทว่าผู้เชี่ยวชาญบางส่วนบอกว่าอาจมีความจำเป็นที่ต้องใช้วัคซีน 2 โดสในการรักษาเพราะว่าผู้คนส่วนใหญ่ไม่มีภูมิต้านทานไว้รัสตัวนี้มาก่อน