เอเจนซี - อัลแบร์โต ฟูจิโมริ อดีตประธานาธิบดีเปรู ถูกพิพากษาจำคุกอีก 7 ปีครึ่งเมื่อวันจันทร์ (20) ในข้อหาติดสินบน 15 ล้านดอลลาร์แก่หัวหน้าตำรวจลับระหว่างดำรงตำแหน่ง ในคำตัดสินล่าสุดต่ออดีตผู้นำที่ต้องชดใช้กรรมในสถานคุมขังไปก่อนหน้านี้แล้ว 2 คดีทั้งในคดีละเมิดสิทธิมนุษยชนและใช้อำนาจในทางที่ผิด
ฟูจิโมริ ผู้ล้มป่วยด้วยโรคหัวใจและอายุจะครบ 71 ปีในเดือนนี้ บอกต่อศาลว่า เขาจ่ายเงินจำนวนดังกล่าวให้แก่ วลาดิเมียร์ มอนเตซินอส เพราะเขากลัวว่ามือขวาที่เขาไว้ใจนั้นกำลังวางแผนรัฐประหารเขา
แต่นักวิจารณ์ระบุว่า เขาได้นำเงินหลวง 15 ล้านดอลลาร์ จ่ายให้ มอนเตซินอส เพื่อให้ออกจากตำแหน่งและหลบหนีออกนอกประเทศ ภายหลังหัวหน้าตำรวจลับรายนี้พัวพันกับเรื่องอื้อฉาวติดสินบน ขณะที่รัฐบาลของฟูจิโมริ กำลังล่มสลายจากปัญหาคอร์รัปชันในปี 2000 แต่ในที่สุดแล้ว มอนเตซินอส ก็ถูกจับกุมในเวเนซุเอลา
“นี่ไม่ใช่การลงโทษทางการเมือง” ผู้พิพากษาเซซาร์ ซาน มาร์ติน กล่าว “คำพิพากษาในวันนี้เป็นไปตามข้อเท็จจริง” แต่ทาง ฟูจิโมริ บอกว่าเขาจะยื่นอุทธรณ์คำตัดสิน
ระหว่างดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก ฟูจิโมริ ได้รับการยกย่องสำหรับการปราบปรามกองโจรไชนิงพาธ และภาวะเงินเฟ้อ แต่ภายหลังสาธารณชนมีความเห็นต่อต้านเขาเกี่ยวกับแนวทางเผด็จการและเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับสินบนต่างๆ
ทั้งนี้ ดูเหมือนว่าเขาคงต้องใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ในเรือนจำ หลังจากเมื่อเดือนเมษายน เขาเพิ่งถูกตัดสินจำคุก 25 ปี ในข้อหาออกคำสั่งให้ทีมนักฆ่าปฏิบัติการสังหารหมู่ 2 ครั้งที่คร่าชีวิตพลเรือนไปหลายสิบคนในช่วงต้นทศวรรษ 1990 ขณะที่รัฐบาลของเขาต้องต่อสู่กับกลุ่มหัวรุนแรงฝ่ายซ้าย
ก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2007 หลังจากถูกส่งผู้ร้ายข้ามแดนจากชิลีกลับสู่เปรู เขาถูกพิพากษาจำคุก 6 ปีในข้อหาใช้อำนาจในทางที่ผิด จากกรณีสั่งการให้ลูกน้องบุกบ้านของผู้อำนวยการสำนักข่าวกรอง ขโมยเอกสาร และวิดีโอบันทึกภาพการคอร์รัปชันในรัฐบาลของเขา
