เอเอฟพี - รัฐบาลสิงคโปร์แถลงเมื่อวันอังคาร (14 ก.ค.) ว่า เศรษฐกิจของประเทศสามารถเติบโตขยายตัวได้เป็นครั้งแรกในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา ในช่วงไตรมาส 2 (เมษายน-มิถุนายน) ของปีนี้ บ่งชี้ให้เห็นว่านครรัฐแห่งนี้กำลังหลุดพ้นจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มความหวังให้แก่ชาติอื่นๆ ในเอเชียด้วย
ตามการแถลงของกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมของสิงคโปร์ ด้วยพลังแรงจากยอดส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และการแพทย์ชีวภาพ เศรษฐกิจสิงคโปร์ในไตรมาส 2 สามารถทะยานขึ้นในอัตรา 20.4% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสแรกโดยที่มีการปรับปัจจัยทางฤดูกาลและคำนวณให้เป็นอัตราต่อปีแล้ว
ก่อนหน้านี้ จากการสำรวจความคิดเห็นนักวิเคราะห์ 10 คนของ ดาวโจนส์ นิวส์ไวร์ พบว่า นักวิเคราะห์คาดการณ์เฉลี่ยอยู่ที่ระดับอัตรา 14.1%เท่านั้น นอกจากนั้น ไตรมาส 2 ดังกล่าวนี้ยังเป็นไตรมาสแรกที่มีอัตราเติบโตเป็นบวกเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ในตลอด 5 ไตรมาสที่ผ่านมา
กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมของสิงคโปร์ ยังได้ปรับตัวเลขคาดการณ์ทางเศรษฐกิจตลอดทั้งปีนี้ จากเดิมที่คาดว่าจะหดตัวลง 6-9 เปอร์เซ็นต์ เป็นการหดตัวเพียง 4-6 เปอร์เซ็นต์ แต่ขณะเดียวกันก็เตือนว่า การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจยังมีสภาพอ่อนแอ อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากความเปราะบางของเศรษฐกิจโลก
สิงคโปร์ซึ่งเป็นประเทศที่อาศัยการค้าเป็นตัวขับดันเศรษฐกิจ กลายเป็นเศรษฐกิจในเอเชียแห่งแรกที่จ่อมจมลงสู่ภาวะถดถอยในครึ่งหลังของปีที่แล้ว ภายหลังวิกฤตทางการเงินและทางเศรษฐกิจที่เริ่มต้นในสหรัฐฯได้ส่งผลทำให้ความต้องการสินค้าออกของสิงคโปร์ลดวูบ
ข้อมูลที่เปิดเผยในวันอังคารนี้ หมายความว่าสิงคโปร์กลายเป็นชาติเอเชียที่กำลังประสบภาวะเศรษฐกิจถดถอยชาติแรกที่มีการเปิดเผยตัวเลขข้อมูลซึ่งบ่งชี้ว่ากำลังจะมีการฟื้นตัว
อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ผลผลิตทางเศรษฐกิจของสิงคโปร์ในไตรมาสที่ 2 ปีนี้ ยังคงลดต่ำลง 3.7 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจทั้งระบบยังคงอยู่ในภาวะอ่อนแอ
ถึงกระนั้น เดวิด โคเฮน นักเศรษฐศาสตร์ประจำสำนักวิจัยทางเศรษฐกิจ แอคชั่น อีโคโนมิกส์ ก็มองว่า โดยทางเทคนิค ถือได้ว่าเศรษฐกิจได้หลุดพ้นจากภาวะถดถอยแล้ว และแม้ว่าการเติบโตในขณะนี้จะยังไม่แข็งแกร่งมากนัก แต่ก็มีแนวโน้มที่จะเพิ่มความเข้มแข็งขึ้นเป็นลำดับ
ขณะที่รายงานการวิจัยของ ดีบีเอส กรุ๊ป ระบุว่า เศรษฐกิจสิงคโปร์พลิกฟื้นกลับมาเติบโตได้อย่างน่าทึ่งในไตรมาสที่ 2 สอดคล้องกับที่หลายฝ่ายได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
ทางด้าน ซองเซงวุน นักเศรษฐศาสตร์แห่ง ซีไอเอ็มบี-จีเค รีเสิร์ช ให้ความเห็นว่า การกระเตื้องขึ้นในช่วงไตรมาส 2 ของสิงคโปร์ ทำให้เกิดความหวังเพิ่มมากขึ้นว่า ช่วงเลวร้ายที่สุดก็น่าจะสิ้นสุดลงเช่นกัน สำหรับจีน, เกาหลีใต้, ฮ่องกง, ไต้หวัน, และเศรษฐกิจในเอเชียอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบกระเทือนจากวิกฤตระดับโลก
แม้เศรษฐกิจในไตรมาสที่ 2 จะเติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านั้น แต่กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมของสิงคโปร์ยังคงแถลงเตือนว่า สถานการณ์ในอนาคตก่อนจะถึงสิ้นปียังไม่มีทิศทางเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเท่าไรนัก การฟื้นตัวที่อ่อนแอยังคงต้องเผชิญกับความเสี่ยงที่จะทรุดตัวลงได้อีกครั้ง
"ณ จุดเปลี่ยนในขณะนี้ ยังไม่มีสัญญาณใด ๆ ที่บ่งชี้ชัดเจนถึงการฟื้นตัวของอุปสงค์ การเติบโตทางเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 2 จึงอาจจะไม่ยั่งยืนก็เป็นได้" คำแถลงของกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมของสิงคโปร์กล่าว
รายงานของกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมยังระบุด้วยว่า ภาคอุตสาหกรรมบริการ ซึ่งมีสัดส่วนถึง 2 ใน 3 ของเศรษฐกิจสิงคโปร์ทั้งระบบ ยังคงทรุดตัวลงอย่างต่อเนื่อง โดยไตรมาสล่าสุดได้ทรุดตัวลงอีก 5.1 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
นอกจากนั้น รายงานยังได้ตั้งข้อสังเกตด้วยว่า ตัวเลขอัตราว่างงานที่เพิ่มสูงขึ้นและการจับจ่ายของผู้บริโภคที่ลดลงในประเทศที่เป็นตลาดหลักของภาคการส่งออกของสิงคโปร์ เช่น สหรัฐและยุโรป สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจโลกจะยังคงอยู่ในภาวะอ่อนแอต่อไป