เอเจนซี - ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯและดมิทรี เมดเวเดฟ ผู้นำเครมลิน เห็นพ้องกันถึงเป้าหมายลดอาวุธนิวเคลียร์และข้อตกลงที่อนุญาตให้กองทัพอเมริกันบินข้ามน่านฟ้ารัสเซียเพื่อจัดส่งอาวุธไปให้กับกองกำลังของนาโตในอัฟกานิสถาน ณ การเริ่มต้นเยือนรัสเซียของโอบามา ที่มีจุดประสงค์ซ่อมแซมความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่าย
ในการแถลงข่าวร่วม ณ เซต์แอนดรูว์ฮอลล์ ในเครมลิน ผู้นำทั้งสองคนได้พูดถึงความตั้งใจของพวกเขาที่จะผลักความแตกต่างไว้เบื้องหลังและพุ่งเป้าถึงความร่วมมือแก้ไขปัญหาต่างๆของโลกอาทิประเด็นการแพร่กระจายอาวุธนิวเคลียร์
ทั้งนี้โอบามาและเมดเวเดฟพยายามหลีกเลี่ยงพาดพิงถึงประเด็นที่ยังมีความเห็นแตกแยก -- กรณีรัสเซียต่อต้านแผนติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธในยุโรปกลางและกรณีสหรัฐฯยืนยันถึงความเป็น บูรณภาพแห่งดินแดนของจอร์เจีย -- อย่างไรก็ตามทั้งสองฝ่ายเน้นถึงผลการหารือที่เป็นบวกต่างๆต่อสาธารณชน
โอบามา ยกย่อง เมดเดเวฟ ว่าเป็นผู้นำที่เปิดเผยตรงไปตรงมาและมีความเป็นมืออาชีพ ที่เข้าใจผลประโยชน์ของประชาชนชาวรัสเซียและต้องการเข้าใจถึงผลประโยชน์ของสหรัฐฯด้วย
ณ พิธีลงนาม โอบามาและเมดเวเดฟ สวมสูทสีดำ เสื้อเชิ้ตสีขาวกับเนคไทสีแดงเหมือนกันให้คำมั่นต่อสนธิสัญญาลดอาวุธหรือที่เรียกว่า "สตาร์ท" (START - Strategic Arms Reduction Treaty) ซึ่งจะหมดอายุลงในเดือนธันวาคม ทั้งสองฝ่ายจะลดจำนวนหัวรบนิวเคลียร์ลงให้เหลือฝ่ายละ 1,500-1,675 หัวรบ จากระดับเหนือ 2,200 หัวรบ
เมดเวเดฟ ให้คำจำกัดความการพูดคุยครั้งนี้ว่า "เป็นประโยชน์อย่างมาก เปิดใจ และเป็นการสนทนาอย่างเอาการเอางาน" พร้อมระบุว่าพวกเขามีเป้าหมายสร้างความสัมพันธ์อันน่าสรรเสริญในยุคศตวรรษที่ 21 ระหว่างสหรัฐฯ-รัสเซีย
รัสเซียจะอนุญาตให้เที่ยวบินลำเลียงทหารและจัดส่งอาวุธของสหรัฐฯบินผ่านน่านฟ้าไปทำสงครามในอัฟกานิสถาน 4,500 เที่ยวต่อปีโดยไม่คิดว่าใช้จ่ายใดๆ ความเคลื่อนไหวที่ได้รับยกย่องจากฝั่งสหรัฐฯว่าเป็นการแสดงถึงเจตนาของมอสโกที่ต้องการช่วยเหลือสงครามที่รบกับกลุ่มตอลิบาน
ส่วนบันทึกอื่นๆนั้นครอบคลุมถึงการคืนความร่วมมือทางทหารสหรัฐฯ-รัสเซีย, ตั้งคณะกรรมาธิการรัฐบาลร่วมใหม่และแลกเปลี่ยนข้อมูลนักโทษสงคราม
ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสของรัสเซียเน้นในช่วงก่อนที่จะโอบามาเยือนรัสเซียไม่นานว่า มอสโกไม่จะลงนามในสนญิสัญญาทางทหารในปลายปีนี้ จนกว่าโอบามา จะยินยอมทำตามข้อเรียกร้องในประเด็นแผนติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธในยุโรปของสหรัฐฯ โครงการที่ก่องความไม่พอใจต่อเครมลินที่กังวลว่าอาจเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของรัสเซีย
เมื่อเดือนพฤษภาคม ผู้นำของทั้งสองประเทศต่างเห็นพ้องในหลักการลดการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ลง รวมถึงยินยอมให้มีการตรวจสอบอาวุธซึ่งกันและกัน และพร้อมเปลี่ยนสนธิสัญญาลดอาวุธฉบับเดิม "สตาร์ท" ซึ่งจะหมดอายุลงในสิ้นปี ด้วยสนธิสัญญาผูกพันฉบับใหม่
ผู้นำทั้งสองคนปฏิเสธพูดถึงความเห็นที่แตกต่างในประเด็นติดตั้งโล่ป้องกันขีปนาวุธ โดยระบุว่าพวกเขาเห็นพ้องในถ้อยแถลงที่จะทำงานร่วมกันเพื่อประเมินภัยคุกคามโลกจากขีปนาวุธ
อย่างไรก็ตาม โอบามายังจะต้องเข้าพบกับ วลาดิมีร์ ปูติน นายกรัฐมนตรีของรัสเซียในวันอังคาร (7) ในบรรยากาศที่ลำบากไม่น้อย เพราะเขาเพิ่งกล่าววิจารณ์ปูตินไปเมื่อสัปดาห์ก่อนว่าเท้าข้างหนึ่งของปูตินยังติดอยู่กับกรอบคิดแบบสงครามเย็น แถมยังเปรียบเทียบปูตินกับเมดเวเดฟ ทั้งๆ ที่เมดเวเดฟ คือ บุคคลที่ปูตินเลือกเป็นผู้สืบต่อตำแหน่งประธานาธิบดี และหลังจากนั้นปูตินก็ตอบโต้กลับว่า “รัสเซียนั้นยังยืนอย่างมั่นคงด้วยเท้าทั้งสองข้าง”
