เอเจนซี - ประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ เริ่มการเยือนรัสเซียวานนี้ (6) โดยแสดงความมั่นใจว่า การปรับปรุงความสัมพันธ์อันร้าวฉานระหว่างทั้งสองฝ่ายจะสามารถ “ก้าวหน้าไปได้อย่างเหนือธรรมดา” หากสองประเทศทำงานหนักร่วมกันระหว่างการเยือนของเขา อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์จำนวนมาก เห็นว่า สหรัฐฯกับรัสเซียยังคงมีความแตกต่างกันในเรื่องใหญ่ๆ หลายเรื่อง โดยเฉพาะแผนติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธในยุโรปของวอชิงตัน ที่ยังคาใจมอสโก
“เรามีความเชื่อมั่นว่า เราสามารถเดินหน้าต่อเนื่องจากการหารืออันวิเศษที่เราได้กระทำกันในกรุงลอนดอน” โอบามา บอกกับประธานาธิบดี ดมิตริ เมดเวเดฟ ในตอนเริ่มต้นของการเจรจาที่วังเครมลินวานนี้ โดยอ้างอิงถึงการพบปะระหว่างผู้นำทั้งสองเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา
“และในบรรดาประเด็นปัญหาต่างๆ ทั้งหมดนั้น ... สหรัฐฯและรัสเซียมีความเห็นร่วมกันมากกว่าที่แตกต่างกัน และถ้าพวกเราทำงานหนักในช่วงสองสามวันข้างหน้านี้ เราก็สามารถที่จะทำให้เกิดความก้าวหน้าไปได้อย่างเหนือธรรมดา...”
ขณะที่ เมดเวเดฟ ซึ่งยิ้มร่าขณะต้อนรับโอบามาที่วังเครมลิน ก็กล่าวแสดงความหวังว่า “ด้วยผลของการสนทนาของเรา ... เราจะสามารถปิดหน้าที่ยากลำบากในความสัมพันธ์รัสเซีย-อเมริกา ไปได้จำนวนหนึ่ง และเปิดไปสู่หน้าใหม่ๆ”
ทางฝ่ายอเมริกันเปิดเผยกับสื่อหลายราย ว่า คณะผู้เจรจาของสองฝ่ายสามารถตกลงกันได้แล้วเมื่อวันอาทิตย์ เกี่ยวกับเนื้อหาของโครงร่างข้อตกลงฉบับใหม่ว่าด้วยการลดอาวุธนิวเคลียร์ในคลังแสงของแต่ละฝ่าย และพร้อมที่จะให้โอบามาและเมดเวเดฟ พิจารณา เมื่อผู้นำทั้งสองเจรจากัน
นอกจากนั้น คาดหมายกันว่า ระหว่างการเยือนรัสเซียเป็นเวลาสองวัน โอบามาจะได้รับความยินยอมจากรัสเซียในการจัดส่งอาวุธไปให้กับกองกำลังของนาโตในอัฟกานิสถานโดยผ่านดินแดนของรัสเซีย รวมทั้งจะจัดตั้งคณะกรรมาธิการร่วมภาครัฐบาลของทั้งสองประเทศเพื่อดูแลในเรื่องการปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับรัสเซีย
ส่วนผู้นำธุรกิจที่ร่วมเดินทางไปกับคณะของโอบามา ก็หวังให้การเยือนครั้งนี้ช่วยสนับสนุนการค้าและการลงทุนให้มากขึ้น เพราะการค้าระหว่างรัสเซียกับสหรัฐฯ ในปี 2008 มีมูลค่าค่อนข้างต่ำเพียง 36,000 ล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม ภารกิจในการปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับรัสเซีย ก็ยังเป็นเรื่องยากที่ต้องอาศัยความพยายามอย่างยิ่ง
**ฝนฟ้าไม่เป็นใจ**
สภาพอากาศครึ้มฝนและหนาวเย็นอย่างผิดฤดูกาลในช่วงที่โอบามาและครอบครัวจะเดินทางถึงกรุงมอสโกคราวนี้ ดูเหมือนจะแฝงความหมายเชิงเปรียบเทียบกับบรรยากาศความสัมพันธ์ระหว่างชาติมหาอำนาจหลังสงครามเย็นทั้งสองเป็นอย่างดี
ปีที่แล้วเป็นห้วงเวลาที่ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับรัสเซีย อยู่ในขั้นเลวร้ายที่สุดนับจากทศวรรษ 1990 เนื่องจากรัสเซียได้ส่งกำลังทหารบุกเข้าไปในประเทศเพื่อนบ้าน คือจอร์เจีย ทำให้สหรัฐฯ ออกโรงประณามการกระทำของรัสเซียอย่างรุนแรงเพราะถือว่าจอร์เจียนั้นเป็นชาติพันธมิตรของตน
ส่วนเมดเวเดฟนั้น กล่าวว่า เขา “มองในแง่ดีพอควร” เกี่ยวกับการมาเยือนของโอบามา แม้ว่าทั้งสองฝ่ายยังคงมีความเห็นแตกต่างกันอย่างมากเกี่ยวกับแผนการของสหรัฐฯ ที่จะจัดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธในยุโรปตอนกลาง ซึ่งรัสเซียมองว่าเป็นภัยคุกคามความมั่นคง ประเด็นนี้รวมทั้งความไม่พอใจของรัสเซียต่อการที่นาโต้ขยายอิทธิพลเข้าไปในประเทศที่เคยอยู่ในอดีตสหภาพโซเวียตด้วย จึงอาจเป็นเหมือนม่านเงาที่ปกคลุมการเจรจาของทั้งสองฝ่ายอยู่
ยิ่งกว่านั้น โอบามายังจะต้องเข้าพบกับ วลาดิมีร์ ปูติน นายกรัฐมนตรีของรัสเซียในวันอังคาร (7) ในบรรยากาศที่ลำบากไม่น้อย เพราะเขาเพิ่งกล่าววิจารณ์ปูตินไปเมื่อสัปดาห์ก่อนว่าเท้าข้างหนึ่งของปูตินยังติดอยู่กับกรอบคิดแบบสงครามเย็น แถมยังเปรียบเทียบปูตินกับเมดเวเดฟ ทั้งๆ ที่เมดเวเดฟ คือ บุคคลที่ปูตินเลือกเป็นผู้สืบต่อตำแหน่งประธานาธิบดี และหลังจากนั้นปูตินก็ตอบโต้กลับว่า “รัสเซียนั้นยังยืนอย่างมั่นคงด้วยเท้าทั้งสองข้าง”