– นาวิกโยธินสหรัฐฯ หลายพันนายโหมบุกเข้าไปในพื้นที่บริเวณหุบเขาริมแม่น้ำแห่งหนึ่งในจังหวัดเฮลมานด์ของอัฟกานิสถานเมื่อวันพฤหัสบดี (2) ตาม “ปฏิบัติการคานจาร์” หรือ “การโจมตีของดาบ” ซึ่งเป็นปฏิบัติการเชิงรุกครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่บารัค โอบามาเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี โดยหวังยึดที่มั่นของกลุ่มตอลีบันและกวาดล้างแหล่งปลูกฝิ่นใหญ่ที่สุดในโลก
ปฏิบัติการดังกล่าวจะเป็นไปอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดและมุ่งที่จะเข้ายึดพื้นที่ตอนล่างของหุบเขาริมแม่น้ำเฮลมานด์ให้ได้ทั้งหมด
ผู้บัญชาการรบครั้งนี้คาดหวังว่าปฏิบัติการจะบรรลุผลสำเร็จได้ภายในไม่กี่ชั่วโมง แม้ว่าก่อนหน้านี้กองกำลังของนาโตจะประสบความล้มเหลวตลอดหลายปีที่ผ่านมา นอกจากนั้น ยังจะเป็นการพลิกสถานการณ์สู้รบที่คุมเชิงกันมานานเพื่อเตรียมรับกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีอัฟกานิสถานที่จะมีขึ้นในเดือนสิงหาคมด้วย
“จุดประสงค์ของปฏิบัติการก็คือบุกหนัก รุนแรง และรวดเร็ว ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นก็จะลดการสูญเสียชีวิตของทั้งสองฝ่าย” พลเอกแลร์รี นิโคลสัน ผู้บัญชาการหน่วยนาวิกโยธินประจำภาคใต้ของอัฟกานิสถานกล่าวถึงปฏิบัติการดังกล่าว
นอกจากนั้น ปฏิบัติการครั้งนี้ยังเป็นครั้งแรกของการทดสอบยุทธศาสตร์ใหม่ของสหรัฐฯ ในการเอาชนะกลุ่มตอลีบันและกองกำลังอื่นๆ และเพื่อสร้างเสถียรภาพในอัฟกานิสถาน ในขณะที่กลุ่มตอลีบันก่อเหตุรุนแรงเพิ่มขึ้นถึงระดับสูงสุดนับตั้งแต่ที่ถูกขับไล่ออกไปเมื่อปี 2001
ทั้งนี้ โฆษกของนาวิกโยธิน ระบุว่าเมื่อเวลา 9.30 น. (0500จีเอ็มที) ภายหลังจากเริ่มปฏิบัติการราว 8 ชั่วโมง ยังไม่มีรายงานความสูญเสียใดๆ นอกจากเหตุปะทะเล็กๆ น้อยๆ จากการที่กลุ่มก่อการร้ายยิงเข้าใส่นาวิกโยธินสหรัฐฯ แล้วล่าถอยออกไป
กลุ่มนักรบของตอลีบันนั้นมีหลายพันคนด้วยกันและหลบอยู่ตามฐานที่มั่นต่างๆ ในบริเวณหุบเขาเฮลมานด์และคานดาฮาร์ที่อยู่ใกล้เคียงกัน อย่างไรก็ตาม ฝ่ายตอลีบันประกาศว่าจะตอบโต้กลับเช่นกัน
“นักรบมูจาฮิดีนหลายพันคนพร้อมแล้วที่จะตอบโต้กับทหารสหรัฐฯ ในปฏิบัติการที่จังหวัดเฮลมานต์” มุลลาห์ ฮายาต คาน ผู้บัญชาการระดับสูงของตอลีบันระบุทางโทรศัพท์ในปากีสถาน
ส่วนกระทรวงกลาโหมของอัฟกานิสถานบอกว่าปฏิบัติการครั้งนี้มุ่งหมายที่จะเข้าไปควบคุมพื้นที่ซึ่งฝ่ายตอลีบันยึดครองไว้ และเพื่อความปลอดภัยของชาวอัฟกันที่จะออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งประธานาธิบดี
คลื่นเฮลิคอปเตอร์
เฮลิคอปเตอร์จำนวนมากได้นำทหารนาวิกโยธินเข้าสู่พื้นที่หุบเขาดังกล่าวตั้งแต่ช่วงเช้ามืด หลังจากนั้นนาวิกโยธินสามหน่วยคือ “Fox Company” “2nd Batallion” และ “8th Marines” ได้กระจายกำลังรุกคืบไปตามแม่น้ำในขณะที่ดวงอาทิตย์ขึ้น ส่วนนาวิกโยธินอีกหลายร้อยนายก็ใช้รถหุ้มเกราะบุกเข้าไปยังพื้นที่ซึ่งเรียกกันว่า “ทะเลทรายแห่งความตาย” ในขณะที่นาวิกโยธินอีก 4,000 นายโหมกำลังเข้าไป โดยมีกำลังสนับสนุนติดตามมาอีกหลายพันนาย
หน่วยนาวิกโยธินหวังว่าการบุกจู่โจมทันทีด้วยกำลังทหารจำนวนมาก จะทำให้สามารถยึดฐานที่มั่นสำคัญบางแห่งของตอลีบันได้โดยแทบไม่มีการต่อสู้ขัดขืน
“เมืองต่างๆ ที่เป็นศูนย์กลางของพวกตอลีบันจะถูกยึด และเป็นการเข้ายึดอย่างรวดเร็ว และด้วยความหวังว่าจะไม่ต้องใช้กระสุนแม้แต่นัดเดียว นี่คือจุดมุ่งหมายของเรา” นิโคลสันกล่าว
นาวิกโยธินนับหมื่นรายในจังหวัดเฮลมานด์ ซึ่งในจำนวนนี้เป็นกำลังที่เข้ามายังพื้นที่ดังกล่าวแล้วเมื่อสองเดือนก่อน ได้จัดกำลังรบที่ใหญ่ที่สุดขึ้นมาตามคำสั่งของโอบามา หลังจากที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศว่ากลุ่มตอลีบันในอัฟกานิสถานและปากีสถานคือภัยคุกคามสำคัญของสหรัฐฯ และเขายังได้สั่งเพิ่มกำลังทหารสหรัฐฯ ในอัฟกานิสถานถึงสองเท่าตัวโดยจะมีทหารถึงราว 68,000 นายภายในสิ้นปีนี้ ในขณะที่ชาติตะวันตกอื่นๆ มีกำลังทหารอยู่ในอัฟกานิสถานราว 33,000 นาย
อนึ่ง พื้นที่ส่วนใหญ่ของเฮลมานด์นั้นอยู่นอกการควบคุมของรัฐบาลอัฟกานิสถาน และเป็นแหล่งปลูกฝิ่นใหญ่ที่สุดซึ่งผลิตเฮโรอินได้ถึง 90 เปอร์เซ็นต์ของโลก แหล่งยาเสพติดดังกล่าวยังเป็นแหล่งรายได้สำคัญของตอลีบันด้วย ตลอดหลายปีที่ผ่านมากลุ่มตอลีบันจึงมักเสริมกำลังในบริเวณดังกล่าวเพื่อต่อต้านการบุกยึดพื้นที่อย่างเต็มที่