เอเอฟพี - ทหารอังกฤษทำพิธีถอนทหารออกจากอิรักอย่างเป็นทางการในวันนี้(31) ด้วยการลดธงกองทัพนาวิกโยธินและส่งมอบอำนาจต่อไปให้แก่ทหารสหรัฐฯรักษาการณ์ หลังจากที่ทั้งสองประเทศร่วมรบในอิรักมา 6 ปี
พิธีการถอนทหารในเมืองบัสเราะห์ ทางใต้ของอิรัก นับเป็นการปิดฉากบทบาทการสู้รบของพวกเขา ซึ่งเริ่มต้นขึ้นเมื่อสหรัฐฯบุกโค่นล้มซัดดัม ฮุสเซนในปี 2003 ซึ่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษในสมัยนั้นเป็นพันธมิตรอันเหนียวแน่นกับอดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช
"ชาติของเราได้เชื่อมโยงกันด้วยเลือดที่เราได้หลั่งรินร่วมกัน มันเป็นสายสัมพันธ์ที่ไม่อาจถูกตัดขาดได้" พลเอกเรย์ โอเดียร์โน นายทหารอาวุโสของกองทัพสหรัฐฯกล่าว หลังจากที่ธงชาติสหรัฐฯถูกชักขึ้น ขณะที่ธงของนาวิกโยธินอังกฤษถูกชักลง ท่ามกลางแขกเหรื่อที่มาร่วมงานราว 300 คน ซึ่งรวมถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูง นักการทูตของสหรัฐฯ อังกฤษ และอิรัก
ในพิธีครั้งนี้มีการรำลึกถึงทหารอังกฤษ 179 คนที่เสียชีวิตในการปฏิบัติหน้าที่ในอิรักตลอด 6 ปีทีผ่านมา อย่างไรก็ตาม กองทัพอังกฤษระบุว่า ภารกิจของพวกเขายังคงดำเนินต่อไปจนกว่าทหารคนสุดท้ายจะเดินทางออกจากอิรัก
ทั้งนี้ การส่งมอบอำนาจควบคุมฐานทัพทางใต้ให้แก่ผู้บัญชาการรบของสหรัฐฯ นับเป็นขั้นตอนสำคัญของการถอนทหารต่างชาติออกจากอิรัก เพื่อคืนอำนาจอธิปไตยให้แก่อิรัก
ทหารอังกฤษนับเป็นกองกำลังต่างชาติที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองที่ประจำการในอิรัก โดยมียอดสูงสุดอยู่ที่ 46,000 คนในเดือนมีนาคมและเมษายน 2003 ในช่วงที่มีการสู้รบอย่างหนัก ซึ่งยังผลให้ซัดดัมถูกโค่นและประหารในข้อหาอาชกรรมต่อมวลมนุษยชาติ
ตามข้อตกลงระหว่างแบกแดดและลอนดอน มีการตกลงว่าทหารอังกฤษชุดสุดท้าย 4,100 คนจะต้องทำภารกิจให้เสร็จสิ้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการฝึกฝนการต่อสู้ให้แก่ทหารอิรัก ภายในเดือนมิถุนายนนี้ ก่อนที่จะถอนทัพทั้งหมดออกไปในปลายเดือนกรกฎาคม ขณะที่สหรัฐฯต้องถอนทหารออกจากเมืองใหญ่ๆภายในเดือน 30 มิถุนายน และต้องถอนออกจากประเทศไปทั้งหมดภายในสิ้นปี 2011