xs
xsm
sm
md
lg

“มิถุนายน” อิรักนองเลือดสุดรอบ 11 เดือน รับขวัญสหรัฐฯ ถอนทหาร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กองกำลังอิรักเดินพาเหรดโชว์ศักยภาพเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม หลังทหารสหรัฐฯถอนตัวออกจากหลายเมือง ทว่าความรุนแรงกลับเพิ่มสูงขึ้น
เอเอฟพี - เหตุระเบิดหลายระลอกก่อนหน้าปฏิบัติการถอนทหารสหรัฐฯ จากหลายเมืองของอิรัก ส่งผลให้มิถุนายนกลายเป็นเดือนนองเลือดที่สุดของประเทศแห่งนี้ในรอบ 11 เดือน ด้วยมีผู้เสียชีวิตมากถึง 473 คน

สถิติที่รวบรวมจากกระทรวงกลาโหม กระทรวงหมาดไทย และกระทรวงสาธารณสุขอิรัก ระบุว่ามีพลเรือน 372 ราย ตำรวจ 45 นายและทหารอีก 20 นาย ที่เสียชีวิตจากเหตุความรุนแรง สูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีก่อนที่มีผู้เสียชีวิต 465 ราย ทั้งนี้ในเดือนมิถุนายน 2009 มีผู้ได้รับบาดเจ็บถึง 960 ราย เป็นตำรวจ 101 ราย และทหาร 34 นาย นอกนั้นเป็นพลเรือน

ตัวเลขที่พุ่งสูงขึ้นอย่างมากในเดือนมิถุนายน ในจำนวนนั้นรวมไปถึงเหตุนองเลือดครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบปีนี้ ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน โดยเหตุการณ์นั้นมีผู้เสียชีวิตถึง 72 ราย ขณะอีกกรณี คือ เหตุโจมตีแหล่งชุมชนแออัดซาดร์ ซิตีในกรุงแบกแดด วันที่ 24 มิถุนายน ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 62 รายด้วยกัน

ยอดรวมในเดือนมิถุนายน นับว่ามากเป็น 3 เท่าของตัวเลขผู้เสียชีวืตในเดือนมิถุนายน ที่มีผู้เสียชีวิตเพียง 155 ราย ซึ่งถือว่าเป็นเดือนที่มีเหตุนองเลือดน้อยที่สุดนับตั้งแต่พันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯรุกรานอิหร่านในเดือนมีนาคม 2003

ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้ต่อต้านสงครามปี 2003 ที่ออกคำสั่งโดยอดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู.บุช ได้ออกมายกย่องการถอนทหารสหรัฐฯว่าเป็น “หลักชัยที่สำคัญ” แต่เตือนว่าวันที่ยุ่งยากของเหตุนองเลือดและความรุนแรงรออยู่ข้างหน้า

อีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ส่งให้มิถุนายนกลายเป็นเดือนที่นองเลือดที่สุดในรอบ 11 เดือน คือกรณีคาร์บอมบ์โจมตีตลาดที่คนพลุกพล่านในเคอร์คุกในวันอังคาร(30) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 33 รายและบาดเจ็บ 92 คน ย้ำให้เห็นว่าความไม่สงบยังคงห้อมล้อมอิรัก

อิรักได้กำหนดให้วันถอนทหารสหรัฐฯ เมื่อวันอังคาร(30) เป็นวันอำนาจอธิปไตยแห่งชาติ หลังจากถูกสหรัฐฯและชาติพันธมิตรรุกรานเพื่อโค่นล้มอดีตประธานาธิบดีซัดดัม ฮุสเซน แต่ขณะเดียวกันก็กลายเป็นการจุดชนวนความไม่สงบและเหตุนองเลือดที่เกิดจากความแตกแยกระหว่างนิกายที่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตหลายแสนคน

เวลานี้ตำรวจ 500,000 นายและทหาร 250,000 นายของอิรัก สานต่อหน้าที่รักษาความปลอดภัยแบบโดดๆ หลายพื้นที่ในเมือง ขณะที่ทหารสหรัฐฯทั้งหมด 133,000 คน จะยังคงอยู่ในประเทศ แต่ประจำการอยู่ที่ฐานรอบนอกเมืองต่างๆ หลังการส่งมอบเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน

ทั้งนี้ ทหารสหรัฐฯ จะทำหน้าที่สนับสนุนและฝึกฝนกองกำลังของอิรัก ก่อนหน้าปฏิบัติการถอนทหารอย่างสมบูรณ์ตามคำสั่งของโอบามาในช่วงสิ้นปี 2011
กำลังโหลดความคิดเห็น