เอเอฟพี – เกิดเหตุคาร์บอมบ์ในเมืองเคอร์คุก ศูนย์กลางน้ำมันทางตอนเหนือของอิรัก ทำให้มีผู้เสียชีวิต 33 คน ขณะเดียวกับที่กองกำลังทหารของสหรัฐฯ เริ่มถอนทัพออกจากเมือง และจังหวัดต่างๆ โดยส่งคืนความดูแลให้กับกองกำลังรักษาความมั่นคงของอิรัก
ผู้อำนวยการด้านสาธารณสุข เผยว่า เหตุระเบิดในย่านตลาดของเมืองเคอร์คุก ซึ่งมีปัญหาด้านเชื้อชาติมาเป็นเวลานาน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 33 คน และได้รับบาดเจ็บอีก 92 คน
เจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทย ระบุว่า การโจมตีครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาประมาณ 18.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 22.00 น.ตามเวลาของไทย สร้างความเสียหายอย่างหนักทั่วบริเวณ
เมืองเคอร์คุกถูกปกคลุมไปด้วยความตึงเครียดระหว่างชาวเคิร์ด เติร์ก และอาหรับ โดยชาวอาหรับได้เข้ามาตั้งรกรากตั้งแต่สมัยซัดดัมเป็นผู้นำ ในความพยายามเพื่อเจือจางคนส่วนใหญ่ในเมืองที่เป็นชาวเคิร์ด
ทั้งนี้ เหตุระเบิดเกิดขึ้นในวันเดียวกับที่ชาวอิรัก รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหารกำลังจัดงานเลี้ยงรื่นเริงทั่วประเทศ เพื่อฉลองวันเส้นตาย ที่ทหารอเมริกันจะเริ่มถอนกำลังออกจากกรุงแบกแดด และเมืองใหญ่ต่างๆ
ด้าน ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ซึ่งคัดค้านนโยบายการบุกอิรัก ของประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช ประกาศแสดงความยินดีกับการถอนทหารในครั้งนี้ว่าเป็นจุดสำคัญจุดหนึ่ง แต่ได้เตือนถึงความยากลำบากในภายภาคหน้า
อิรักฉลองการถอนกำลังของสหรัฐฯ โดยประกาศให้เป็นวันหยุดของประเทศ 6 ปีหลังจากการใช้กำลังบุกโค่นล้มอำนาจซัดดัม ฮุสเซน แต่ก็ได้ก่อให้เกิดเหตุรุนแรง และนองเลือด ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายหมื่นคน
ทหารอเมริกันเริ่มถอนกำลังออกจากหลายพื้นที่ ในเวลาประมาณเที่ยงคืนตามเวลาท้องถิ่น หรือ 4.00 น. ของไทย ก่อนที่จะถอนกำลังอย่างสมบูรณ์สิ้นสุดในปี 2011