เอเอฟพี – ความนิยมในตัวประธานาธิบดีบารัค โอบามา เริ่มตก เมื่อชาวอเมริกันส่วนใหญ่คัดค้านความพยายามในการปิดเรือนจำในอ่าวกวนตานาโม และแผนอุ้มบริษัท จีเอ็ม มอเตอร์ส
หลังจากโอบามาได้เข้าไปเฉิดฉายในทำเนียบขาวเป็นเวลาเกือบ 5 เดือน การสำรวจความเห็นของวอลล์ สตรีท เจอร์นัล และสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซีก็พบว่า ประชาชน 52% คัดค้านการปิดสถานที่กักขังผู้ต้องสงสัยก่อการร้าย ขณะที่มีเพียง 39% ให้การสนับสนุน
นอกจากนี้ อเมริกันชน 56% ระบุว่า พวกเขาคัดค้านการแทรกแซงทางการเงิน เพื่อช่วยเหลือบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ที่ประสบปัญหา ของทางรัฐบาล มีเพียง 35% ที่เห็นด้วย โดย 69% ยังแสดงความกังวลถึงการบานปลาย หรือความพยายามที่มากเกินไป
ผลการสำรวจ 48% สนับสนุนคำสั่งของโอบามา ที่ห้ามใช้ความรุนแรง หรือวิธีการทรมานนักโทษ ในการสอบสวน เช่น วิธีการทำให้สำลักน้ำ ขณะที่ 41% คัดค้าน
คะแนนความนิยมในการทำงานของโอบามาครั้งนี้ตกลงเหลือ 56% จาก 61% ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ตามผลการสำรวจดังกล่าว ซึ่งมีขอบเขตความผิดพลาด บวกลบ 3.1%
ในจำนวนผู้มีสิทธิออกเสียงอิสระ คะแนนนิยมของโอบามาตกลงจาก 60% เหลือ 46% ส่วนคะแนนผู้ที่ไม่พอใจก็เพิ่มขึ้นจาก 31% เป็น 44%
โพลชิ้นนี้ยังพบว่า ชาวอเมริกัน 37% คิดว่าผู้นำสหรัฐฯ รับมือกับหลายประเด็นเกินไป ขณะที่ 60% มองว่าที่เขาต้องต่อสู้กับหลายสิ่งนั้น เป็นเพราะประเทศกำลังเผชิญปัญหากดดันมากมาย
ทั้งนี้ ผู้ร่วมทำแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นกังวลว่าจะขาดเงินงบประมาณกลางมากขึ้น มีเพียง 6% ที่ตำหนิว่าเป็นความผิดของโอบามา ขณะที่ 46% กล่าวหาว่าเป็นความผิดของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช ผู้นำสหรัฐฯ คนก่อน 21% คิดว่าเป็นเพราะ ส.ส.พรรคเดโมแครต และ 7% ที่คิดว่าเป็นเพราะ ส.ส.พรรครีพับลิกัน
ยิ่งไปกว่านั้น 72% ระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ย่ำแย่อยู่นั้นเป็นสิ่งที่โอบามารับช่วงต่อมา และ 46% ที่คาดว่าปัญหาต่างๆ เหล่านั้นจะดีขึ้นในเวลาอันใกล้นี้ ซึ่งเพิ่มขึ้น 8% จากในเดือนเมษายน