ฝรั่งเศสเผย ใกล้คลายปม “แอร์บัสร่วงลึกลับ” ได้แล้ว

เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่สอบสวนของฝรั่งเศส เผย วันนี้ (17) ว่า กำลังเข้าใกล้ปมปริศนาที่เป็นสาเหตุให้เครื่องบินของสายการบินแอร์ฟรานซ์ ดิ่งลงมหาสมุทรแอตแลนติก ขณะที่การค้นหาศพผู้เสียชีวิต ตลอดจนหลักฐานอื่นๆ ยังคงดำเนินต่อไปกลางทะเลลึก

ปอล-หลุยส์ อาร์สลานิออง ผู้อำนวยการสำนักงานวิเคราะห์และสอบสวน (บีอีเอ) ซึ่งรับผิดชอบในการสอบสวนด้านเทคนิคจากเหตุการณ์ที่เครื่องบินแอร์บัสตก เผยว่า เป้าหมายของการสอบสวนคือเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น และเมื่อพิจารณาจากงานที่ได้ทำไปแล้ว เขาคิดว่า คณะสอบสวนที่ประกอบไปด้วยผู้เชี่ยวชาญ 60 คนกำลังเข้าใกล้เป้าหมายแล้ว

อย่างไรก็ตาม เขาไม่ยอมเปิดเผยรายละเอียดใดๆ รวมทั้งกระแทกกระทั้นการคาดการณ์ของสื่อที่ระบุว่า เครื่องจับความเร็วมีส่วนที่ทำให้เครื่องประสบหายนะ โดยเขาระบุว่า ขณะนี้ยังไม่มีใครบอกอะไรได้ว่าเกิดอะไรขึ้น มันเร็วเกินไปที่จะจินตนาการไปในทางใดทางหนึ่ง

เที่ยวบินเอเอฟ 447 ตกลงกลางมหาสมุทรแอตแลนติก เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ที่ผ่านมา ขณะเดินทางจากนครริโอเดจาไนโร ไปยังกรุงปารีส พร้อมกับผู้โดยสารและลูกเรือ 228 คน โดยเครื่องบินแอร์บัสเอ 330 รุ่นนี้ ตกลงไปท่ามกลางพายุ และได้ส่งข้อความอัตโนมัติรายงานถึงความผิดปกติต่างๆ 24 ข้อความในช่วงนาทีท้ายๆ

5 วันหลังจากเครื่องตก บีอีเอ เผยว่า ระบบเซ็นเซอร์รายงานการจับความเร็วของเครื่องไปยังห้องนักบินโดยไม่สอดคล้องกัน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านการบิน เผยว่า ข้อมูลความเร็วที่ไม่สอดคล้องกันนั้น อาจเป็นสาเหตุให้ระบบบินอัตโนมัติดับ และในกรณีร้ายที่สุด เครื่องบินจะหยุดกลางอากาศ หรือบินไปเร็วมากจนเป็นอันตราย และเป็นไปได้ว่าจะทำให้เครื่องบินแตกสลายในระดับความสูงมาก

อย่างไรก็ตาม บีอีเอ รวมทั้ง แอร์บัส และแอร์ฟรานซ์ ยืนกรานว่า ไม่พบข้อพิสูจน์ว่า เครื่องอ่านความเร็วเกี่ยวข้องกับการประสบเหตุของเที่ยวบินนี้

ด้านทีมค้นหาจากนานาชาติ ยังคงค้นหากล่องดำในพื้นที่ 19,000 ตารางกิโลเมตร ในทะเลนอกชายฝั่งของบราซิล ซึ่งอาจบ่งบอกสาเหตุของปริศษาหายนะครั้งนี้ได้ อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่พบ ขณะที่พบศพแล้ว 50 ศพ และซากเครื่องบิน 400 ชิ้น