“แอร์ฟรานซ์” ไม่เชื่อเครื่องตกเพราะระบบอ่านความเร็วผิดพลาด

เอเอฟพี - กรรมการผู้จัดการใหญ่ของแอร์ฟรานซ์ ไม่เชื่อว่า ความผิดพลาดของเครื่องจับความเร็วจะเป็นสาเหตุให้เครื่องบินแอร์บัส เอ330 ตกลงกลางมหาสมุทรแอตแลนติก อย่างไรก็ตาม มีแผนจะเปลี่ยนระบบจับความเร็วดังกล่าวบนเครื่องของสายการบิน

เมื่อถูกนักข่าวซักถามว่า ทำไมถึงไม่เตรียมพร้อมกับความกังวลในการใช้เครื่องจับความเร็วบนเครื่องบินแอร์บัส เอ330 มากกว่านี้ ปิแยร์-อองรี กูร์ชง กรรมการผู้จัดการใหญ่ของแอร์ฟรานซ์ตอบว่า เขาไม่เชื่อว่าเครื่องจับความเร็วจะเป็นสาเหตุของอุบัติเหตุ และต้องรอฟังผลการสอบสวนสาเหตุอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลฝรั่งเศส หลังจากเที่ยวบินเอเอฟ 447 จากนครริโอเดจาไนโร ไปยังกรุงปารีส ตกลงกลางมหาสมุทรแอตแลนติก เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ที่ผ่านมา พร้อมกับผู้โดยสารและลูกเรือรวม 228 ชีวิต

อย่างไรก็ตาม เขายืนยันรายงานจากสภาพนักบิน ว่า แอร์ฟรานซ์จะยกเครื่องระบบจับความเร็วและเปลี่ยนให้ทันสมัยมากขึ้นกับเครื่องแอร์บัสรุ่น เอ330 และ เอ340 ทุกเครื่อง ทั้งนี้ แอร์ฟรานซ์ได้ตัดสินใจที่จะเปลี่ยนเครื่องจับความเร็วเมื่อวันที่ 27 เมษายน แต่ได้รับเครื่องจับความเร็วรุ่นปรับปรุงใหม่ เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม หรือไม่ถึงสัปดาห์ก่อนที่เที่ยวบินเอเอฟ 447 จะประสบหายนะ และไม่มีการเปลี่ยนเครื่องจับความเร็วบนเที่ยวบินนี้

ก่อนหน้านี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านการบิน คาดว่า เครื่องบินมรณะอาจหยุดนิ่งกลางอากาศ เพราะเกิดความผิดพลาดขึ้นที่ระบบชี้วัดความเร็ว โดยผู้เชี่ยวชาญด้านการบิน เผยว่า เครื่องบินอาจถูกน้ำแข็งปกคลุมจนทำให้เซ็นเซอร์ตรวจจับความเร็วการบินแปรปรวน และส่งผลต่อการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ให้ตั้งความเร็วเครื่องบินเร็วหรือช้าเกินไป และเป็นสาเหตุให้เครื่องตก หลังจากเครื่องบินมรณะลำนี้ได้ส่งข้อความแจ้งผิดพลาดอัตโนมัติถึง 24 ข้อความ ขณะที่ระบบการทำงานปิดลงทีละตัวในช่วงนาทีสุดท้าย และเจ้าหน้าที่สอบสวนฝรั่งเศส ระบุว่า ห้องนักบินได้รับข้อมูลเกี่ยวกับความเร็วขัดแย้งกัน

กรรมการผู้จัดการใหญ่ของแอร์ฟรานซ์ ก็กล่าวว่า อุบัติเหตุครั้งนี้อาจมีปัญหากับเครื่องจับความเร็ว อย่างไรก็ตาม เขายืนกรานว่า เครื่องวัดความเร็วนั้นปลอดภัย แต่ที่ยอมเปลี่ยนเพราะคิดว่า เป็นไปได้ที่ปัญหาเกี่ยวข้องกับน้ำแข็งจะลดลงไปด้วยการใช้เวอร์ชันใหม่ และที่เริ่มปรับปรุงระบบนี้ก็เพราะคิดว่าจะช่วยลดจำนวนหายนะให้ลงเหลือน้อยที่สุด