หนุ่มดวงดีรอดตายจากเที่ยวบินมรณะ-ส่งเรือดำน้ำค้นหาซากใต้แอตแลนติก

เอเจนซี - เผยพบชายวัย 39 ปีชาวเยอรมัน รอดตายหวุดหวิดหลังจองตั๋วเที่ยวมรณะของสายการบินแอร์ฟรานซ์ที่ตกลงในมหาสมุทรแอตแลนติก แต่ไปสนามบินรีโอเดจาเนโรล่วงหน้า เจ้าหน้าที่เลยเปลี่ยนให้ไปไฟลต์ก่อนหน้านั้น ขณะที่ความพยายามค้นหาซากเครื่องบินที่ยังไม่พบนั้น ล่าสุดฝรั่งเศสต้องส่งเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ไปช่วยควานหาใต้ทะเลแล้ว

เอมิน ฮาซิค จากเมือง Barssel ทางเหนือของเยอรมนี บอกเมื่อวันศุกร์(5) ว่าเขาเดินทางไปสนามบินริโอก่อนถึงเวลาที่เที่ยวบิน447 ออกเดินทางในช่วงค่ำวันอาทิตย์(31) เนื่องจากกลัวว่าอาจเจอปัญหาไปอาคารผู้โดยสารไม่ถูก

ฮาซิค ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับรอยเตอร์ ยืนยันถึงรายละเอียดเรื่องราวของเขาที่ปรากฏอยู่ในหน้าหนังสือพิมพ์เยอรมนีเมื่อวันศุกร์(5) และบอกว่าเขาไม่ได้กุเรื่องขึ้นมา

"ผมจำได้แม่นเลยว่า มีผู้หญิงที่เคาน์เตอร์หยิบกระเป๋าสัมภาระของผมและบอกว่าไม่มีปัญหาใดๆทั้งสิ้น(สำหรับการไปเที่ยวบินก่อนหน้า) เขาบอกกับหนังสือพิมพ์ Ostfriesen Zeitung "ในชีวิตผมเคยนั่งเครื่องบินมาแล้ว 15 ครั้ง แต่ไม่เคยถูกเสนอเลื่อนไฟลต์เร็วขึ้นเหมือนกับครั้งนี้เลย"

ผู้เชี่ยวชาญด้านบำบัดโรคซึ่งเดินทางไปร่วมประชุมที่บราซิล เปิดเผยต่อว่าเขาทราบข่าวอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม -- ซึ่งเชื่อว่าผู้โดยสารและลูกเรือ 228 รายเสียชีวิตทั้งหมด -- ในช่วงบ่ายวันจันทร์(1) หลังกลับถึงเยอรมนีแล้ว โดยเขาฟังข่าวนี้จากวิทยุระหว่างที่ขับรถจากสนามบินเบรเมนกลับบ้าน

ด้านความพยายามค้นหาซากเครื่องบินแอร์บัส เอ330 ที่สูญหายไปพร้อมผู้โดยสารและลูกเรือ ล่าสุดรัฐมนตรีกลาโหมฝรั่งเศส แอร์เว โมแรง ระบุว่าจะส่งเรือดำน้พลังงานนิวเคลียร์เข้าร่วมปฏิบัติการครั้งนี้ด้วย

"ด้วยอุปกรณ์ตรวจตราอันทันสมัยของมันอาจจะช่วยให้เราหากล่องดำพบ" เขาบอกกับผู้สื่อข่าว" พร้อมระบุว่าเรือที่จะถูกส่งไปน่าจะเป็นเรือดำน้ำล่าสังหารพลังงานนิวเคลียร์

ก่อนหน้านี้ฝรั่งเศสได้ส่งเรือค้นหาหนึ่งลำและเรือดำน้ำขนาดเล็ก 2 ลำไปยังมหาสมุทรแอตแลนติก บริเวณที่เชื่อว่าเครื่องบินแอร์บัส 330 ประสบอุบัติเหตุ

ทั้งนี้เรือดำน้ำขนาดเล็ก 2 ลำ -- ลำหนึ่งมีลูกเรือ 3 คน -- อีกลำเป็นเรือดำน้ำแบบไร้คนขับ -- สามารถทำงานได้ในระดับความลึกเพียง 6,000 เมตรเท่านั้น ขณะที่ความลึกเฉลี่ยของพื้นที่ค้นหาแม้อยู่ระหว่าง 4,000 ถึง 5,000 เมตร แต่บริเวณรอยแยกมีความลึกถึง 8,000 เมตร

เรือดำน้ำ "Pourquoi Pas" มีกำหนดเดินทางถึงบริเวณเครื่องบินตกในช่วงปลายสัปดาห์หน้า ในการเข้าร่วมปฏิบัติการค้นหาที่จนถึงเวลานี้ยังไม่พบผู้เสียชีวิตหรือแม้แต่ซากเครื่องบิน